หน้าแรกแกลเลอรี่

วิ่ง-จ๊อกกิ้ง

ฟ้าคำราม

1 ส.ค. 2566 05:08 น.

การวิ่งและจ๊อกกิ้งนั้น เป็นกิจกรรมที่นิยมกันอย่างแพร่ หลาย เป็นกิจกรรมที่ไม่มีค่าใช้จ่ายมาก ในปัจจุบัน เพื่อนๆสามารถออกไปวิ่งหรือจ๊อกกิ้ง ได้ตลอดเวลา

นักวิ่งบางคนเลือกที่จะวิ่งเพื่อสนุกสนาน เป็นกิจกรรมที่สามารถออกกำลังกายเพื่อสุขภาพได้ง่าย แต่ก็จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆ จะเป็นกิจกรรมที่เพิ่มความท้าทายให้กับตัวเอง

ประโยชน์ที่ได้จากการวิ่ง หรือจ๊อกกิ้งนั้น

การวิ่งเป็นประจำจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การวิ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพราะการออกกำลังกายนี้เป็นการแบกน้ำหนักของเราเอง ก็จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปเรื่อยๆ

ปรับปรุงสมรรถภาพของหัวใจและหลอดเลือด ให้แข็งแรงขึ้นไป เผาผลาญแคลอรีในร่างกาย หรือลดน้ำหนัก ที่หลายๆคนอยากให้เป็น

ในปัจจุบันนี้ชีวิตเราเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ

โรคหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง หรือจะเป็นโรคหลอด เลือดในสมอง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโรค เนื่องจากร่างกายเราปรับตัวเร็วมากต่อกิจกรรมที่เราได้ทำขึ้น คือจะบอกว่าเราออกกำลังกายไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตเราลดลง

การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่นการวิ่งนั้น จะช่วยพัฒนาสุขภาพจิต เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง และคุณภาพชีวิตตัวเองได้อย่างดี

ความแตกต่างระหว่างการวิ่งและการจ๊อกกิ้ง คือ ความเข้มข้น การวิ่งเร็วกว่า ใช้กิโลจูลมากกว่า และต้องใช้แรงจากหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อมาก กว่าการวิ่งจ๊อกกิ้ง การวิ่งต้องการความฟิตโดยรวม ในระดับที่สูงกว่าการวิ่งเหยาะๆ

ทั้งการวิ่งและจ๊อกกิ้งเป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก แอโรบิก หมายถึง “ด้วยออกซิเจน”–คำว่า “การออกกำลังกายแบบแอโรบิก” หมายถึง กิจกรรมทางกายใดๆที่ผลิต พลังงานโดยการรวมออกซิเจนเข้ากับระดับน้ำตาล ในเลือดหรือไขมันในร่างกาย

เคล็ดลับสำหรับผู้เริ่มต้น เริ่มด้วยการเดินเร็ว ตั้งเป้าไว้ที่ 30 นาที/ต่อครั้ง ให้เวลาอย่างน้อย 8 ถึง 12 สัปดาห์เพื่อสร้างการวิ่งปกติ พยายามเพิ่มเวลาวิ่งจ๊อกกิ้งในแต่ละเซสชัน และสลับระหว่างการเดินและจ๊อกกิ้ง

อย่าลืมที่จะอบอุ่นร่างกาย และทำการคูลดาวน์ เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อการวิ่งครั้งนั้นๆ และเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ ควรพักให้หาย หรือถ้าไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์

วางแผนเส้นทางที่คุณจะออกกำลังกาย สภาพถนน และระยะทางที่คุณจะวิ่ง หลีกเลี่ยงการวิ่งริมถนน เพราะสามารถเกิดอุบัติเหตุได้

เริ่ม 2-3 ครั้ง/ต่อสัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการ โอเวอร์เทรน และเลือกกิจกรรมอื่นๆร่วมด้วยเพื่อ ให้มีการผ่อนคลายร่างกาย เช่น ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน

ถ้าออกไปวิ่งตอนเช้า ก็ระวังความร้อนจากแดด อาจจะหาชุดที่มีการป้องกันรังสี UV หรือใส่หมวก และแว่นตากันแดด ทาครีมกันแดดไว้ด้วยก็ดี

******

เพจ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง ทำให้เรา เห็นภาพชัดเจน ระหว่างการวิ่ง และจ๊อกกิ้ง แตกต่างกัน อย่างไรใครชอบหรือเห็นว่าตัวเองควรวิ่งในลักษณะใด ช้าหรือเร็ว ลองพิจารณาดูได้ตามความเหมาะสม

และความพร้อมของร่างกายของเรา...

ฟ้าคำราม