มีเวลาทบทวน

วันก่อน รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี มีการแถลงถึงการที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ของประเทศไทย ซึ่งจังหวัดภูเก็ตต้องแข่งกับเมืองอื่นๆจาก 4 ประเทศ สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา เซอร์เบีย และสเปน

โดยในวันที่ 21 มิ.ย. 66 คณะผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปเสนอความพร้อมของประเทศไทยเป็นครั้งสุดท้าย ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังนำเสนอเสร็จวันเดียวกัน ประเทศสมาชิก BIE 124 ประเทศ จากทั้งหมด 171 ประเทศ จะโหวตเลือกเมืองที่จะได้เป็นเจ้าภาพ

“บิ๊กตู่” ยังเชิญชวนให้คนไทยทุกภาคส่วนสามารถร่วมส่งแรงเชียร์ แสดงออกถึงการสนับสนุนในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ผ่านลิงก์ https://support.expo2028thailand.com ด้วย

ถือเป็นเรื่องดี และเป็นงานในหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านยังต้องรักษาการ ปฏิบัติและทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มกำลัง!
ไม่เท่านั้น ยังมีการเผยแพร่นำเสนอผลงานของรัฐบาลท่านออกมาล่าสุด ซึ่งน่ายินดีที่มีพาดพิงถึงเรื่อง “กีฬา” อยู่ในการนำเสนอ เผยแพร่ให้เห็นด้วย สะท้อนได้ว่า ท่านให้ความสำคัญกีฬาของชาติ

แต่มันจะดูย้อนแย้งกันหรือไม่ เมื่อในวาระส่งท้ายของรัฐบาลชุดนี้ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำกำลังจะปล่อยมือจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ทั้งๆที่เกมจะมีขึ้นในอีก 5 เดือนข้างหน้า

และเกมเกมนี้ประเทศไทยประกาศรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็ในยุคสมัยท่านเซ็นสัญญากับโอซีเอไปเมื่อ 23 เม.ย.2563 แม้ว่าจะมีการเลื่อนมาแล้ว 2 ครั้ง ด้วยวิกฤติโควิด-19 แต่เมื่อทุกอย่างคลี่คลายก็เดินหน้าต่อ ประกาศเป็นสัญญาต่อชาติสมาชิกในเอเชียมาตลอด คณะรัฐมนตรีของท่านก็เห็นชอบ รับรู้ รับทราบมาต่อเนื่องทุกขั้นตอน และประกาศให้ความสำคัญยกย่องต่อเกมนี้เสมอมา

ทุกสิ่งทุกย่างเตรียมการพร้อม สภาโอลิมปิกแห่งเอเชียก็ประกาศชื่นชม ยกย่อง และเชื่อมั่นล่วงหน้าให้ชาวเอเชียรับรู้ถึงเกมที่จะเกิดขึ้น ล่าสุดมาประชุมในบ้านเราเมื่อเดือนก่อน

แต่สุดท้ายจะขอเลื่อนก่อน แถมไม่แน่ว่าต่อไปจะกลายเป็นยกเลิกไปด้วยหรือไม่

ที่สำคัญเหตุผลที่หยิบยกขึ้นมากลายเป็นเรื่องของการเมือง การเมืองจากการเลือกตั้งที่กำลังส่งผ่านไปยังรัฐบาลใหม่และมีผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณที่ไม่สะดวก!!!

ทั้งๆที่เรื่องของการเลือกตั้งมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนมาก่อนหน้านี้ เป็นไปตามกำหนดการปกติ ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บ เกิดอุบัติเหตุอะไร ต้องเลือกกันแบบกะทันหันเมื่อไหร่ นี่รู้กันล่วงหน้ามายาวนาน ระเบียบปฏิบัติก็รับรู้กันหมด

ก่อนวันเลือกตั้งก็ยังมีท่าทีปกติ ไม่ได้มีเหตุอะไร ไม่มีการหยิบยกเรื่องใดๆขึ้นมาเป็นประเด็นที่ต้องมีผลต่อการจัดบอร์ดการกีฬาก็เป็นมือไม้ เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล

แต่พลันที่ผลการเลือกตั้งออกมา พรรครัฐบาลปัจจุบันเพลี่ยงพล้ำ ดูจะไม่สามารถสืบทอดได้ต่อไป กลับมีผลต่อการเป็นเจ้าภาพเสียงั้น

คำถามที่อยู่ในใจหลายคน หากผลเลือกตั้งกลับกลายเป็นพรรครัฐบาลเดิมชนะ แล้วจะเป็นปัญหาหรือไม่!

งานเอ็กซ์โปยังต้องลุ้นกัน และหวังว่าเราจะได้จัดซึ่งเป็นประโยชน์มากมายมหาศาล แต่กีฬาเอเชียนอินดอร์ฯ ที่เราได้สิทธิ์แล้วและกำลังจะจัดในอีก 5 เดือน กลับจะขอเลื่อนไปเสียงั้น

เวลายังมีให้คิดทบทวน รัฐบาลลุงตู่จะส่งท้ายกับวงการกีฬาไทยเช่นไร...

“เบี้ยหงาย”