เบี้ยหงาย
ไม่น่าเชื่อว่ากีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งประเทศไทยเราต้องเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตั้งแต่ 10-19 มี.ค.2564 แต่เมื่อโลกต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนมาถึง 2 ครั้ง ซึ่งขยับมาเป็น 10-22 มี.ค.2565 และ 17-26พ.ย.2566 ตามลำดับ
แต่กลายเป็นว่าฝ่ายไทยต้องขอโอซีเอ หรือ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย เลื่อนการแข่งขันออกไปอีก กับการเป็นเจ้าภาพที่จะมีขึ้นในอีกราวๆ 5 เดือนข้างหน้า
แน่นอนย่อมเกิดความเสียหาย และยังเพิ่มงาน เพิ่มงบประมาณอีกมาก ด้วยเกี่ยวพันถึงปฏิทินการแข่งขันของชาติอื่นๆ และวงการกีฬาเอเชีย
น่าตลกที่โควิด-19 ไม่เป็นปัญหาแล้ว แต่ กลับกลายเป็นการยกเหตุรอยต่อช่วงเปลี่ยนผ่านที่กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องของงบประมาณเสียอย่างนั้น
ทั้งๆที่ทุกอย่างเตรียมการไว้หมด มีแผนทุกอย่าง รู้ตัวเลขงบประมาณกันมานานแล้ว ก่อนเลือกตั้งก็ยังยืนยันยืนกราน ประธานบอร์ด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอง ก็ยังกำชับกำชาให้เตรียมให้ดี โอซีเอมาประชุมร่วมฝ่ายไทยก็ยาหอม เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย เราเองก็คุยฟุ้งไปทั่ว
แต่พลันที่ผลการเลือกตั้งออกมาไม่เป็นไปตามคาดของฝ่ายอำนาจเดิม คนเดิมๆอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้คุมกีฬาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นอกจากรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังควบทั้งประธานบอร์ดการกีฬา บอร์ดกองทุน ประธานโอลิมปิกไทย เรียกว่าครบทั้งแผนงาน เตรียมงาน อนุมัติเงิน และรวมถึงผู้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันด้วย ก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
อะไรทำให้เปลี่ยนง่ายๆเสียงั้น ทั้งๆที่ กกท. ก็เดินหน้าจัดอย่างเต็มกำลัง ลงทุนลงแรงมาเยอะแล้ว นักกีฬาก็เก็บตัวฝึกซ้อม มีเป้าหมาย มุ่งมั่นกันเต็มที่ การเลือกตั้งก็รู้ล่วงหน้า ไทม์ไลน์มีหมด กฎระเบียบรู้ทุกช่องทาง
เรื่องเงินนั้นดูไม่น่าเป็นปัญหา มีทั้งเงินกองทุนฯ และงบที่ตั้งไว้เตรียมขอจากรัฐบาล ซึ่งไม่มากนัก
แต่เรื่อง “ใจ” และความรับผิดชอบนี่สิ เป็นสิ่งที่น่าแคลงใจหรือจะมีอะไรแอบแฝงเป็นอื่น
และหากผลเลือกตั้งออกมาอีกทาง อำนาจเดิมดำรงอยู่จะเลื่อนหรือไม่!!!
ถึงตรงนี้จะเลื่อนหรือแม้กระทั่งสุดท้ายอาจกลับกลายเป็น “เลิก” ก็ไม่ได้ทำให้ตัวบุคคลอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดเสียหายอะไรนัก
แต่ความเสียหายอันใหญ่หลวงจะตกอยู่กับส่วนรวม ซึ่งก็คือประเทศชาติ และประชาชนคนไทย รวมถึงนักกีฬาทั้งหลาย โดยเฉพาะการเสีย “โอกาส” ในหลายมิติ ที่ไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเลขได้
ก็น่าเสียดายเข้ามายึดคุมกันร่วม 9 ปี มาถึงช่วงท้าย ไม่ว่าจะกลับมากันได้หรือไม่ อย่างน้อยก็ควรจะสั่งลากันด้วยความทรงจำที่ดี
ตอนนี้คนกีฬามากมายกำลังนึกถึงเพลง “ลุงตู่อยู่ไหน” ที่ปล่อยออกมาช่วงก่อนการเลือกตั้ง
เมื่อพี่ใหญ่คิดเห็นเช่นนี้ เสมือนตัดสินใจแทนรัฐบาลไทย ประกาศต่อชาติเอเชีย แล้วน้องเล็กจะทำเฉย นี่ไม่ได้เลื่อนกีฬาแห่งชาตินะ นี่คือการที่ ไทยแลนด์เลื่อนจัดมหกรรมกีฬาของชาวเอเชีย จะอ้างช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลและขั้นตอนอนุมัติงบประมาณก็ตาม ล้วนเป็นผลสืบเนื่องจากการเลือกตั้ง
ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ อำนาจยังเต็มมือ หาช่องทางกันไม่ได้เลยหรือ
ที่ผ่านมาคนกีฬาก็ร้องหา “ลุงตู่” อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้เข้ามาแสดงบทบาทอะไรเลย ในช่วงท้ายๆนี้ อย่าหาช่องกลับมาอย่างเดียว หาทางช่วยกันก่อนดีไหม เผื่อคนกีฬาได้คิดถึงกันบ้าง
“ลุงตู่อยู่ไหน” สบายดีรึเปล่า...
“เบี้ยหงาย”