หน้าแรกแกลเลอรี่

ถ้าเจ็บหลัง

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

10 เม.ย. 2566 05:12 น.

ก่อนหน้านี้เพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” มีข้อมูลแนะนำเรื่องอาการบาดเจ็บส่วนต่างๆของร่างกายมาให้รับทราบกันอย่างต่อเนื่อง

คราวนี้ก็เช่นกัน ใครที่วิ่งแล้วเกิดอาการเจ็บที่บริเวณแผ่นหลัง ควรอ่านบทความนี้อย่างยิ่ง

ทำไมวิ่งแล้วปวดหลัง? ต้องแก้ไขยังไงบ้าง

จริงๆแล้วอาการวิ่งแล้วปวดหลัง นักวิ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นนะครับ แต่มักจะเกิดกับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกเล่นกีฬาใหม่ๆ วันนี้เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาดูสาเหตุว่าทำไมบางคนถึงมีอาการวิ่งแล้วปวดหลังได้

อาการปวดหลังของนักวิ่ง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่บริเวณหลังส่วนล่าง แต่สาเหตุมักมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น การขยับตัวเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างวันให้มากขึ้น แทนที่จะนั่งอยู่กับที่นานๆ ก็จะช่วยป้องกันอาการปวดหลังนี้ได้

แต่ก็มีบางกรณีที่การวิ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหลังได้เหมือนกัน โดยสาเหตุของอาการปวดหลังในนักวิ่งที่พบบ่อยที่สุดมี 2 ปัจจัย คือ “การเพิ่มความเร็วในการวิ่งที่เร็วเกินไป” และ “การเพิ่มปริมาณการวิ่งลงเนินที่เร็วเกินไป”

ทั้งสองอย่างนี้ทำให้กระดูกสันหลังยืดขยายตัวมากขึ้นในขณะวิ่ง และการวิ่งลงเนินจะส่งผลกระทบต่อหลังส่วนล่างมากขึ้น

สำหรับนักวิ่งที่เพิ่มความเร็วในการออกกำลังกายมากเกินไป หรือการวิ่งลงเนินที่เร็วเกินไป อาจทำให้ข้อต่อบางส่วนในบริเวณหลังได้รับการรบกวนจนมีอาการปวดหลังได้ แต่มักจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น และไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลจนเกินไป

ถ้าเพื่อนๆรู้สึกเจ็บหลังขณะวิ่งควรหยุดพักสัก 2-3 วัน หรืออาจใช้วิธีเดินไปก่อน

เมื่ออาการปวดหลังเริ่มรู้สึกดีขึ้นจึงค่อยเริ่มวิ่งช้าๆ สลับกับการเดินบนพื้นราบ เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวและแรงกระแทกของกล้ามเนื้อหลัง

จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มระดับจนกว่าจะสามารถกลับมาวิ่งด้วยความเร็วหรือวิ่งขึ้นลงเนินได้โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร

แต่ถ้ามีอาการปวดหลังบ่อยๆ แนะนำให้ปรับการเดิน เช่น ก้าวเท้าสั้นๆ พยายามวิ่งให้นุ่มนวลขึ้น และลดการเกิดแรงกระแทกให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ควรฝึก strength training โดยเน้นการฝึกไปที่ช่วงลำตัวและสะโพก

ถ้าเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือต้องการเพิ่มระยะทางในการฝึกวิ่ง ให้ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เวลาร่างกายได้ปรับตัวเข้ากับปริมาณการฝึกที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสในการได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งครับ.

ยุบสภา