ไทยรัฐฉบับพิมพ์
จากเหตุการณ์ที่ “คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” มีอาการ “ฮีตสโตรก” จนหมดสติขณะซ้อมรถแข่ง และถูกหามส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ด่วนซึ่งทำให้ “คุณเอ๋” ถึงกับเสียชีวิต ในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นคำว่า “ฮีตสโตรก” หรือ “โรคลมแดด” จึงได้รับความสนใจมากขึ้น
แพทย์หลายท่านได้ออกมาให้คำแนะนำในการป้องกัน
ขณะเดียวกัน “นพ.อี๊ด ลอประยูร” แพทย์ชื่อดังในวงการกีฬาได้เขียนข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษาเบื้องต้นเอาไว้
สำหรับคนชื่นชอบการเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสเสี่ยง อยากให้อ่านบทความนี้ของ “หมออี๊ด” ครับ
30 นาที คือ ชีวิต เมื่อเกิด Heat Stroke:
เมื่ออุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย (วัดทางทวาร) ขึ้นไปถึงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส และเริ่มมีอาการทางสมอง เช่น เวียนศีรษะ มึนงง สับสน คลื่นไส้อาเจียน จนถึงเป็นลมหมดสติ เมื่อนั้นเวลา สำหรับการรักษาร่างกายไว้ให้กลับมาได้เป็นปกติมี 30 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานกว่า 120 นาที โอกาสเสียชีวิตจะมีสูงมาก
“ลดอุณหภูมิร่างกายให้เร็วและมากที่สุด”
อย่ามัวแต่รอรถพยาบาล หรือรอการส่งไปให้ถึงโรงพยาบาล ทุกนาทีที่ผ่านไป อวัยวะภายในคือ สมอง หัวใจ ตับ ไต และกล้ามเนื้อ จะเกิดการ ตายสลายตัวอย่างรวดเร็ว
กว่าร่างกายจะร้อนมาถึงขนาดนี้ น้ำในร่างกายจะเหลือลดน้อยลงอย่างมาก ทำให้เลือดข้นไหลเวียน ได้ยาก หัวใจกับหลอดเลือดต้องทำงานหนัก เต้นเร็ว และแรงตลอดเวลา และความร้อนที่สูงมากจะทำลายเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อหัวใจและเส้นเลือดจนสุดท้ายไปต่อไม่ไหวจึงเกิด “ภาวะหัวใจวาย”
วิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุดคือ เอาตัวแช่ในน้ำเย็นจัด (ยกเว้นส่วนศีรษะ) ถ้ามีอ่างใหญ่ๆให้ใส่ อ่างแช่น้ำ เอาน้ำแข็งใส่เข้าไปให้มากๆ ถ้าไม่มี อ่างน้ำให้เอาผ้าใบกันน้ำผืนใหญ่ๆ เอาคนที่เกิดเหตุ นอนข้างในแล้วยกสี่มุมขึ้นเพื่อเทน้ำเย็นลงไปให้ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายอย่างรวดเร็ว
จำไว้ “ถ้าอุณหภูมิยังไม่ลด รถพยาบาลมา ก็ยังไม่ต้องรีบย้าย” “Cool First, Transfer Second”
ลดลงมาให้ได้เหลือ 38.5-38.9 องศา ค่อย รีบนำออกจากถังน้ำพาไปโรงพยาบาล ทำสำเร็จได้ ภายใน 30 นาที โอกาศรอดกลับมาปกติอาจถึง 100 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ถึงแม้จะไม่เสียชีวิต ถ้าไม่ลดอุณหภูมิ ให้ดีก่อนก็อาจต้องอยู่โรงพยาบาลกันอีกยาวนาน เช่น ต้องล้างไต หรืออาจถึงต้องผ่าตัดเปลี่ยนตับเปลี่ยนไตกันไปถึงขั้นนั้น
“รู้ให้เร็ว ลดให้เร็ว แล้วส่งให้เร็ว”
หลักการรักษาเบื้องต้นของ Heat Stroke.
ยุบสภา