เบี้ยหงาย
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเคาะราคาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศ กัมพูชาออกมา กำหนดไปชี้ขาด เคาะกันในการพูดคุยวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งทางโอลิมปิกไทยจะหารือกับทางโอลิมปิกกัมพูชาผ่านระบบ ซูม โดยไม่ผ่านบริษัทตัวแทนขายลิขสิทธิ์จากราคาตั้ง 8 แสนเหรียญสหรัฐฯ จะลงมาเท่าไหร่ เผลอๆอาจจะลดพรวดลงมาระดับแสนเหรียญก็เป็นไปได้ ก็ต้องรอดูกันไป
การขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์นั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ก่อนหน้านี้ทางประเทศลาว เจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งที่ 25 เมื่อปี 2009 ก็มีการขายกันมาแล้ว โดยคนไทยเรานี่แหละเป็นคนเดินเรื่อง และวางระบบการขายทั้งหมดให้ฝ่ายลาว ในนาม บ.เพชรจำปา จำกัด
จริงๆแล้วเรื่องของลิขสิทธิ์กีฬาซีเกมส์ ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติ หรือเลวร้ายอะไร ด้วยกีฬาในปัจจุบันนี้ก็มีค่าลิขสิทธิ์กันทั้งนั้น ถูกแพงอยู่ที่ความเป็นที่นิยมกันมากขนาดไหน ประเทศเจ้าภาพเองก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการผลิตสัญญาณเผยแพร่ ยิ่งต้องการมาตรฐานสูงก็ย่อมต้องลงทุนสูงตามไปด้วย
ลิขสิทธิ์กีฬายอดนิยมอื่นๆ ก็ขายกันในราคาสูงลิ่วมากมาย ที่เด่นชัดก็คือฟุตบอลโลก มูลค่านั้นแตกต่างกันมหาศาล แม้ว่าคนไทยไม่ได้ไปเตะ แต่ความต้องการดูนั้นสูงมาก และดูกันจริงๆจังๆ ก่อนซื้อก็มีเสียงตำหนิติเตียนกันระงม สุดท้ายก็โดนกระแสความ “นิยม” และความยิ่งใหญ่ของเกม ที่กลืนหายไป
แต่นี่ “ซีเกมส์” เป็นมหกรรมกีฬา แข่งกีฬาหลากหลาย ซึ่งมีนักกีฬาไทยลงแข่งขันด้วย อีกทั้งเป็นเกมที่มีนักกีฬาไทยจำนวนมากไปแข่งขัน และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมาสูงมาก ก็ต้องถือว่ามีความสำคัญยิ่ง มีมิติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกีฬาอื่นๆ
เป็นมิติที่มีผลตรงต่อคนไทยทั้งชาติ ทั้งคนดู และนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นในมุมของการสร้างความสมัครสมานสามัคคี กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของความเป็นคนไทยร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน หรือในมุมของการเสริมสร้างศักยภาพ การพัฒนากีฬาของตัวนักกีฬาแต่ละบุคคล ตลอดจนองค์รวมในความเป็นกีฬาของประเทศไทย เป็นแบบอย่างให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬามากขึ้นอย่างแน่นอน
มิติต่างๆเหล่านี้ไม่เพียงเป็นคุณโดยตรง ยังมีมิติของการส่งผลให้เกิดการ ลด ละ เลิก ในเรื่องไม่ดีทางสังคมได้อย่างเป็นวงกว้างและลึกโอกาสอย่างนี้วนรอบมาในทุกๆ 2 ปี
นั่นจึงเป็นเหตุ เป็นผล ที่ไม่ควรจะใช้อารมณ์ความรู้สึกเข้ามาตัดสินกับเรื่องค่าลิขสิทธิ์กีฬาซีเกมส์ มากจนเกินไป และคงไม่ต้องไปรอใครเป็นฮีโร่ ขี่ม้าขาวมาช่วยอะไรหรอก ดีที่สุดคือหาจุดลงตัวให้ได้เท่านั้น
อีก 2 ปีข้างหน้า เราก็เป็นเจ้าภาพ มีสิทธิ์ที่จะขายเช่นกัน
จะจัดแข่ง ยัดเยียดกีฬาอะไรกันก็ช่างเขา รอเชียร์นักกีฬาไทยของเราแต่ละเกม แต่ละกีฬากันดีกว่า
อย่าหลงลืม นี่คือเวทีแสดงศักยภาพของทัพนักกีฬาไทย เรื่องอื่นๆแค่ปลีกย่อยเท่านั้นแหละ...
“เบี้ยหงาย”