บี บางปะกง
ครอบครัวราชประชา
“วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2511”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ได้พระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่ “พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ ประวิตร”
ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันพระราชทานกำเนิด “ทีมฟุตบอลราชประชา”
ที่ประเดิมสนามอย่างเป็นทางการในนัดแรกเมื่อ 55 ปีที่แล้ว
คงไม่ช้าเกินไปนะครับ...ถ้าผมจะขอร่วมแสดงความยินดีย้อนหลังกับสโมสร “ตราชฎา” ราชประชา
ทีมลูกหนังเก่าแก่อันเป็นตำนานของเมืองไทย
ที่อยู่ยั้งยืนยง คู่วงการฟุตบอลบ้านเรามายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษเข้าให้แล้ว
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
พล.อ.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร.ประธานสโมสร ได้จัดงานใหญ่ ในวาระครบรอบ 55 ปีของสโมสร
ภายใต้ชื่องาน "ยืนหยัด ยั่งยืน พลิกฟื้นสู่ความยิ่งใหญ่ 55 ปี ราชประชา" ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
เพื่อเป็นการรำลึกจากไปครบรอบ 16 ปี ของ“หม่อมเจต” พล.ต.ต.มรว.เจตจันทร์ ประวิตร ผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลราชประชา
ซึ่งจริงๆแล้วทาง “พี่หม่อมเป๊บ” ได้กรุณาโทรมาชวนผมให้ไปร่วมงานนี้ด้วยตัวเอง
แต่เนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่อำนวย ผมก็เลยต้องขออนุญาตเป็นกำลังใจให้ “ครอบครัวราชประชา” อยู่ที่บ้าน
แล้วติดตามบรรยากาศของงานในค่ำคืนนั้น เอามานำเสนอกันบนพื้นที่คอลัมน์ SportInsider ในวันนี้
โดยภายในงาน “หม่อมเป๊บ” พร้อมด้วยบรรดานักเตะทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมงานกันอย่างอบอุ่นคับคั่ง
มีการแสดงแสงสีเสียง และนำเสื้อของสโมสรในแต่ละยุคมาจัดโชว์ที่หน้างาน
รวมถึงนำผลงานสำคัญของสโมสรที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา
นำมาแสดงเพื่อเป็นการถ่ายทอดให้กับคนวงการฟุตบอลรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในอดีตของสโมสรแห่งนี้
ขณะเดียวกันก็มีการเสวนาเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของทีมตราชฎา ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม จนถึงยุคปัจจุบัน
บทสัมภาษณ์แบบเอ็กคลูซีฟ เบื้องลึกต่างๆของสโมสรจากบรรดานักเตะที่ได้รับเชิญขึ้นไปร่วมพูดคุยบนเวที ในวาระ ครบ 55 ปี
อาทิ ประพันธ์เปรมศรี ,วรวรรณ ชิตะวณิช , ยุทธนา พลศักดิ์ , รณชัย รังสิโย ฯลฯ
ทั้งนี้ทาง พล.อ.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า....
ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นวันครบรอบการก่อตั้ง 55 ปี สโมสรฟุตบอลราชประชา ตำนานทีมฟุตบอลไทย”
“เราต้องการที่จะร่วมรำลึกถึง พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ ประวิตร ผู้ที่มีคุณูปการต่อวงการฟุตบอลไทย จนได้ขนานนามท่านว่า "คุณชายลูกหนัง" ที่ครบรอบ16 ปี ของการจากไป”
“พวกเราครอบครัวราชประชา จึงได้จัดงานนี้ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนทราบถึงความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้
“ถือว่าราชประชาเป็นหนึ่งสโมสรเก่าแก่ของเมืองไทย ที่เราชาวราชประชาทุกคนภาคภูมิใจ"
“ผมต้องขอบคุณทุกความร่วมมือที่ทำให้เกิดงานนี้ และขอบคุณนักเตะทีมงานราชประชาทุกคนที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน”
สำหรับประวัติโดยย่อของสโมสรกีฬาราชประชา หรือสโมสรฟุตบอลราชประชา หรือที่เราเรียกฉายากันว่าทีม"ตราชฎา"
ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปี 2509 โดย พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ ประวิตร ผู้บังคับการตำรวจดับเพลิง (ในขณะนั้น) ในนาม ทีมฟุตบอลราชประชานุเคราะห์ดับเพลิง
โดยมีแนวคิดที่ว่ากีฬาเท่านั้นที่จะเบี่ยงเบนความสนใจด้านอบายมุขของเยาวชนได้
ได้นำนักฟุตบอลในสมัยนั้นมาฝึกสอนฟุตบอลให้กับเด็กๆ ซึ่งเริ่มด้วยการเป็นทีมเยาวชนให้กับ สโมสรตำรวจ
ต่อมาสโมสรได้ลงทำแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2511 กับ สโมสรทหารอากาศ ในฟุตบอลการกุศลช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช
สโมสร สามารถเอาชนะ สโมสรทหารอากาศ แชมป์ ถ้วย ก. ในขณะนั้น ไปได้ 1-0
และด้วยผลงานดังกล่าวทำให้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯเชิญ สโมสรราชประชาฯเข้าร่วมการแข่งขัน ถ้วยพระราชทานประเภท ก. โดยไม่ต้องเริ่มแข่งขันจาก ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง.
ส่งผลให้ สโมสร ต้องแยกตัวมาบริหารจัดการเอง และไม่ขึ้นกับ สโมสรตำรวจ อีกต่อไป
ถัดมาในปี พ.ศ. 2516 พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ พ้นจากตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจดับเพลิง และเกิดวิกฤติทางการเมืองขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในสโมสร
มีการแต่งตั้ง อ.ประวิทย์ ไชยสาม ขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนพร้อมกับแยกตัวออกจาก มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เพื่อความสะดวกในการบริหารงาน
และได้เปลื่ยนชื่อเป็น “สโมสรกีฬาราชประชา” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยทีมยังเดินหน้าสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆ พร้อมกับปั้นนักเตะเก่งๆชื่อดังมากมายให้ก้าวขึ้นมาประดับวงการลูกหนังไทย และ รับใช้ทีมชาติไทยอีกนับไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็น ประพันธ์ เปรมศรี, ประพนธ์ พงษ์พานิช, วิทยา เลาหกุล, วรวรรณ ชิตะวณิช, สุทิน ไชยกิตติ, สุรัก ไชยกิตติ, มาด๊าด ทองท้วม ,สมปอง นันทประภาศิลป์, ศักดริน ทองมี, สาธิต จึงสำราญ,สราวุธ สุขประเสริฐ
ยุทธนา พลศักดิ์, อนุพงษ์ พลศักดิ์, พัฒนพงษ์ ศรีปราโมช, พัทยา เปี่ยมคุ้ม, สมาน ดีสันเที๊ยะ, ทรงกลด หมื่นนุปิง, อิริค ไชยสงคราม, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รุ่งเพชร เจริญวงศ์, วิฑูรย์ ถาวรหมื่น, ชูเกียรติ หนูสลุง, บทชาย พ้นยาก, สุชิน พันธุ์ประภาส อภิเชษฐ์ พุฒตาล, พิพัฒน์ ต้นกันยา, อนุชา กิจพงษ์ศรี, ดัสกร ทองเหลา, ยุทธจักร ก้อนจันทร์
จนมาถึง ธีรศิลป์ แดงดา , รณชัย รังสิโย, วิสูตร บุญเป็ง, นฤพล อรมณ์สวะ, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีราทร บุญมาทัน, นิรันดร์ พันทอง เป็นต้น
ต่อมาในปี 2527 ร.ท.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร ( ยศในขณะนั้น) บุตรชาย ม.ร.ว.เจตจันทร์ ได้เข้ามามีบทบาทในสโมสรมากขึ้น ก่อนที่ ม.ร.ว.เจตจันทร์ จะวางมือและถึงแก่อนิจกรรมในเวลาต่อมา
โดยเกียรติประวัติฟุตบอลในประเทศของทีมตราชฎา มีมากมาย ได้แก่ รายการถ้วยพระราชทานประเภท ก. ชนะเลิศ 4 ครั้ง พ.ศ. 2515,2516,2523,2525, ถ้วยพระราชทานประเภท ข. ชนะเลิศ 1 ครั้ง พ.ศ. 2550
ถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ชนะเลิศ 2 ครั้ง พ.ศ. 2515, 2524, ถ้วยพระราชทาน มวก.นนทบุรี ชนะเลิศ 2 ครั้ง พ.ศ. 2552, 2553, เอฟเอคัพ ชนะเลิศ 4 ครั้ง พ.ศ. 2519, 2520, 2527, 2537 และฟุตบอลลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ชนะเลิศ 1 ครั้ง พ.ศ. 2552
สำหรับผลงานที่ดีสุดในระดับเอเชียของสโมสรราชประชา ได้แก่ เอเชียนคัพวินเนอร์คัพ - รอบ 2 (ฤดูกาล 1995/96) , ตูกูมูด้าคัพ (อินโดนีเซีย) - ชนะเลิศ 2 ครั้ง - 2525, 2527 , โบโดรอยด์ โทรฟี่ อินเดีย - รองชนะเลิศ 2544
ปัจจุบันสโมสรกีฬาราชประชา ที่มี" หม่อมเป๊ป" พล.อ.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร เป็นประธานสโมสร และมี "โค้ชโดนัท" อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ฤดูกาล 2022/23 เล่นอยู่ในศึกไทยลีก 2
นี่คือสโมสรฟุตบอลระดับตำนานของบ้านเรา ที่ยังมีลมหายใจ
และจะยืนหยัดขับเคลื่อนต่อไป อย่างยั่งยืน
เพื่อรอวันกลับคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com