เบี้ยหงาย
วันก่อนมีเอกสารว่อนไปหมดในหมู่คนกีฬา และส่งต่อโดยผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงกีฬาหลายท่าน อันเป็นผู้บริหารกีฬาชั้นนำของประเทศนี้ ซึ่งแสดงความเห็นด้วยกับข้อเขียนที่เผยแพร่ไป
ข้อเขียนนั้นสะท้อนถึงความอัดอั้นตันใจ ท้อแท้ แต่ก็ได้ชี้แจงแสดงเหตุผลในมุมต่างๆที่ถ่องแท้ ถึงปรากฏการณ์อันเกิดขึ้นกับวงการกีฬา โดยเฉพาะสมาคมกีฬาต่างๆที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มาเป็นเวลานานพอควร
ส่วนใครเป็นผู้เขียนก็ไม่ทราบ บ้างก็ว่าเป็นฝ่ายกฎหมายของสมาคมหลายสมาคม ช่วยๆกันเขียน ช่วยๆกันร่าง โดยข้อเขียนชิ้นนี้เริ่มด้วยการแสดงความผิดหวังในเรื่องการร้องเรียนต่อ กกท. แต่ก็ปล่อยให้เงียบไป ทั้งๆที่ผู้ว่าการ กกท. ถือเอาเรื่อง ผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นนโยบายหลัก เนื้อหาส่วนใหญ่ดูจะสวนทางกับการแถลงของผู้จัดการกองทุนพัฒนาการ กีฬาแห่งชาติ ที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้
ทั้งประเด็นของอำนาจการอนุมัติเบิกจ่ายเงินกองทุนโครงการต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการของบประมาณ ที่ทำให้สมาคมทำงานยากขึ้น บางเรื่องก็ไม่สามารถทำได้ รวมถึงเรื่องเงินค้างท่อ ขั้นตอนต่างๆที่มากทำให้ล่าช้า ซึ่งดูจะผลักให้เป็นเรื่องของการกีฬาแห่งประเทศไทย
นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ แต่เป็นสัญญาณที่ดี ที่ผู้คนในวงการกีฬา ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในวังวนนี้ และเป็นส่วนเสี้ยวที่ได้รับผลกระทบโดยตรง กล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้ ปฏิเสธสิ่งที่คิดว่าไม่ถูกไม่ควร ทั้งเสนอความคิดเห็นอย่างเป็นเหตุเป็นผล เสียดายเพียงไม่ได้ทำเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการยื่นถึงส่วนต่างๆที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่สังคมคนกีฬาในโครงข่ายของ กกท. หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จะให้ความสนใจและติดตามกับปัญหาที่เกิดขึ้นจนมีการร้องเรียนและขยายไปสู่ประเด็นต่างๆ
เรื่องนี้ยังได้รับความสนใจจากฟากการเมือง ฝ่ายนิติบัญญัติ คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน รวมทั้งกรรมาธิการหลายท่านก็เป็นผู้เอาจริงเอาจังและใส่ใจกับเรื่องกีฬาของชาติ อาทิ รองประธาน วัชรพล โตมรศักดิ์, เลขา สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ, เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล โฆษกคณะกรรมาธิการ ฯลฯ
โดยเฉพาะท่านโฆษก เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล “ส.ส.ป๊อก” ประธานสโมสรฟุตบอลเมืองเลย ยูไนเต็ด ได้มีการเสาะหาข้อมูลรวบรวมไว้มากมาย และจะนำปัญหาต่างๆเข้าสู่คณะกรรมาธิการเพื่อสืบค้นข้อเท็จจริงในการประชุมครั้งต่อไปทันที
ก็เป็นอีกกลไกตามครรลอง ที่จะร่วมสร้างความกระจ่างให้วงการกีฬาโดยรวม
ไม่มีใครปิดบังข้อเท็จจริงได้ ยิ่งปิดเท่ากับยิ่งโหมกระพือ!
ถูกผิดว่าไปตามจริง
ยิ่งตอนนี้นับถอยหลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ไม่มีใครเกรงใจกันแน่ ผลของการกระทำที่ไม่ถูกไม่ควร ย่อมส่งผลแน่นอน ยิ่งหากมีการทำให้ข้อเท็จจริงผิดเพี้ยน หรือถึงขั้นบิดเบือน โอบอุ้มจนไร้สติ และไร้สำนึก จะเกิดผลรุนแรงเกินคาด
ส่วนผลการตรวจสอบสัปดาห์นี้ยังสรุปกันไม่ได้ อย่างที่เคยประกาศไว้ ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง
กำลังถึงวันหวยออก สงสัยงวดนี้เลข 7 จะมาแรงที่ทุ่งหัวหมาก 7 ข้อ 7 ประเด็น และ 7 วันที่ให้โอกาสชี้แจงแสดงหลักฐาน รอกันมาแล้ว ขยับอีกหน่อยคงทนกันไหวน่า...
“เบี้ยหงาย”