ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เห็นกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 “เทียนนกแก้วเกมส์” ที่จังหวัดเชียงใหม่แล้วก็ดีใจที่เห็นเกม การแข่งขันใหญ่ๆเริ่มทยอยกลับมาแล้ว
“กีฬานักเรียนนักศึกษา” ถือเป็นเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและถือเป็นรากฐานที่สำคัญก่อนที่จะก้าวไปสู่ระดับที่ยากขึ้นอย่างกีฬาเยาวชนแห่งชาติ หรือกีฬาแห่งชาติในอนาคต
แต่ผมติดใจอยู่นิดนึงเกี่ยวกับนักกีฬาที่แต่ละจังหวัดเลือกเข้าไปในสังกัด มันรู้สึกไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่กับการที่ดึงนักกีฬาดังๆ มาร่วมเพียงเพื่อหวังความสำเร็จ
ยกตัวอย่าง “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน ยอด ลมกรดดาวรุ่งของไทยที่กำลังมาแรงที่สำคัญถือเป็นความหวังของสมาคมกรีฑาที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในเกมสำคัญอย่างซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์
“เทพบิว” ลงในนามเขต 2 สมุทรปราการ แค่วันแรกก็สร้างชื่อกระหึ่มคว้าทอง 200 เมตร แบบม้วนเดียวจบ ไม่ต้องมานั่งลุ้นแถมยังทำลายสถิติอย่างราบคาบ
จริงอยู่นักกีฬาทุกคนต้องมีสนามให้ประลองบ่อยๆ ถือเป็นการอุ่นเครื่องหรือเคาะสนิมแล้วแต่จะเรียกกัน
สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากถึงฝ่ายจัดการแข่งขันหรือแต่ละจังหวัดที่เป็นต้นสังกัดรวมถึงสมาคมกีฬาต่างๆ เราควรกำหนดหรือกลั่นกรองสักนิดดีหรือเปล่า
กรณีของ “เทพบิว” เป็นความหวังของประเทศไทย การแข่งขันกีฬานักเรียนบอกเลยมันเป็นเกมที่เล็กเกินไปไม่ควรให้มาร่วมชิงชัยด้วย
กีฬารายการแบบนี้เราควรปล่อยให้เป็นเวทีของบรรดาช้างเผือกแจ้งเกิดจะดีกว่าไหม การที่เราปล่อย ให้นักกีฬาทีมชาติลงแข่งด้วย แค่ดีกรีหรือประสบการณ์ก็แตกต่างไปแล้ว
สู้เราปล่อยให้บรรดาช้างเผือกได้ลงอวดฝีมืออย่างเต็มที่ดีกว่าหรือเปล่า
การที่เราเปิดโอกาสให้นักกีฬาทีมชาติลงแข่ง กับนักกีฬาปกติมองดูเหมือนเป็นการปิดกั้นโอกาสของนักกีฬาปกติหรือเปล่า
นี่เป็นความคิดของผมคนเดียวนะครับอาจจะ แตกต่างจากทุกคน
แต่ที่พูดเพราะหวังดีและอยากเห็นประเทศไทย มีนักกีฬามากความสามารถเยอะๆ
เพราะพวกเขาเหล่านั้นคืออนาคตของประเทศชาติ.
โจโจ้ซัง