บี บางปะกง
ปิดฤดูกาลไปเรียบร้อย สำหรับศึกฟุตซอลไทยลีก 2022
กับความสำเร็จของ ทีมโต๊ะเล็ก “สิงห์คลองเตย” การท่าเรือ เอเอสเอ็ม
ที่กลับมาครองบัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง เป็น “สมัยที่ 4” อย่างยอดเยี่ยม
รับเงินรางวัลไป 3 ล้านบาท พร้อมด้วยโควตาไปแข่งขัน ฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย ในปีหน้า 2023
ส่วนรองแชมป์ตกเป็นของ “ห้องเย็นท่าข้าม” ที่รับไป 1.5 ล้านบาท พ่วงด้วยสิทธิไปบู๊ศึกสโมสรอาเซียน
ขณะที่ “แชมป์เก่า” บลูเวฟ ชลบุรี ปีนี้ต้องพบกับความผิดหวัง (อย่างแรง)
เพราะนอกจากจะเสียแชมป์ให้คู่ปรับตลอดกาล อย่าง ท่าเรือ แล้ว
ผลงานบนตารางคะแนน เมื่อจบซีซั่น ยังร่วงหล่นไปเป็นอันดับ 4 อีกต่างหาก
จึงเป็นโจทย์สำคัญของ ประธานสโมสรหนุ่ม “บิ๊กแปม” ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ ว่าจะวางกลยุทธ์อย่างไร?
แข้งฉลามโต๊ะเล็ก ถึงจะคืนความยิ่งใหญ่บนเวทีฟุตซอลลีก..ให้เร็วที่สุด!!
ส่วน 2 ทีมที่ต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกรอง คือ เอ็นที ฟุตซอลคลับ กับ เซสส์ มหาสารคาม
ขณะที่ พัทยาฟุตซอลคลับ กับ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเลื่อนชั้นขึ้นมาแทนที่
โดย “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฝ่ายฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด
ได้กล่าวถึงภาพรวมของฟุตซอลไทยลีก ที่เพิ่งจบลงไปสดๆ ร้อนๆ ให้ผมฟังว่า
ตนพอใจในความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับฟุตซอลลีกปีนี้ ซึ่งกลับไปแข่งในระบบเหย้า-เยือนอีกครั้งในรอบ 2 ปี
ทำให้แฟนบอลแต่ละสโมสรได้กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวามากขึ้น
โดยเฉพาะการได้เล่นเกมเหย้าในบ้านของตัวเอง ทำให้การเชียร์ทีมรักทำได้อย่างเต็มที่
ต่างจากบรรยากาศการจัดแข่งสนามเป็นกลางในช่วงโควิด-19 อย่างชัดเจน ที่ทำให้สีสันของแฟนคลับแต่ละทีมหดหายไปเยอะ
แม้ว่าฝ่ายจัดจะต้องเหน็ดเหนื่อยลงทุน ลงแรง ในการถ่ายทอดสด เพิ่มมากขึ้น
แต่เราทุกคนก็แฮปปี้มีความสุขกับผลงานที่ออกมาทั้งหมด ที่เกิดจากความทุ่มเทของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับการพัฒนาอัปเกรดตัวเองของแต่ละสโมสร
ที่จะเห็นได้ว่าฟุตซอลไทยลีกยุคนี้ มีมากกว่าครึ่งที่มาตรฐานใกล้เคียงสูสี พร้อมแพ้ชนะกันได้ตลอดเวลา
ถึงแม้บทสรุปของทีมที่ครองแชมป์ จะยังคงมีแค่ การท่าเรือ กับ บลูเวฟ ชลบุรี ที่ผลัดกันครองความยิ่งใหญ่
แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน สโมสรที่อันดับรองๆ ลงมา ณ เวลานี้
จะถีบตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าที่จะลุ้นแย่งแชมป์กับทั้งสองยอดทีมโต๊ะเล็กบ้านเรา...ได้ไม่ยากเลย
เผลอๆ อาจจะเป็นฤดูกาลหน้า 2023 นี่แหละ!
ที่เราจะได้เห็น “แชมป์หน้าใหม่” เกิดขึ้นบนเวทีฟุตซอลไทยลีกกันบ้าง
เพราะตนทราบมาว่า หลายๆ ทีมเตรียมทุ่มงบอย่างเต็มที่ เพื่อดึงแข้งฝีเท้าดีทั้งไทยและเทศ
มาเสริมเขี้ยวเล็บให้ขุนกำลังของตัวเองแข็งแกร่งที่สุด...เท่าที่จะทำได้
เรียกว่าแต่ละทีมต่างหวังผลเลิศ ที่จะก้าวขึ้นมาเขย่าบัลลังก์แชมป์...กันอย่างเต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว
ซึ่งนี่คือสัญญาณที่ดีของฟุตซอลลีกเมืองไทย ที่จะตอกย้ำความเป็น “เบอร์ 1” ของอาเซียนแบบเต็มๆ
หลังเรายังคงเป็นชาติเดียวในภูมิภาคนี้ ที่เล่นกันในระบบเหย้า-เยือน
โดยฟุตซอลลีกทั้ง เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่ว่ากันว่ากำลังบูมสุดๆ ในช่วงหลัง
ก็ยังคงเตะกันในสนามกลางอยู่ เหมือนลีกของเราในยุคแรกๆ
เรียกว่าเขายังเดินตามฟุตซอลไทยลีกอยู่หลายปี
ซึ่งในซีซั่นหน้า สิ่งที่ตนจะต้องเร่งจัดการให้แล้วเสร็จ คือเรื่อง “คลับไลเซนซิ่ง” ของแต่ละสโมสร
ที่ เอเอฟซี เน้นย้ำมากที่สุด ในการพัฒนาวงการฟุตซอลเอเชีย...อย่างเต็มรูปแบบ
โดยถือเป็นการยกระดับ “ฟุตซอลไทยลีก” ของเรา สู่การเป็นลีก “ท็อปทรี” ของทวีป ชนิดฟูลออปชัน
ทัดเทียมกับ ลีกอิหร่าน และญี่ปุ่น
ที่เป็นมหาอำนาจเอเชีย...อยู่ในปัจจุบัน !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com