หน้าแรกแกลเลอรี่

กำลังใจแด่..คนทำงาน

บี บางปะกง

14 ธ.ค. 2565 06:00 น.

วันหยุดยาว ลองวีกเอนด์ ที่ผ่านมา 

ชีพจรลงเท้าพาผมล่องใต้ไปเยือนเกาะภูเก็ต ในรอบ 17 ปีเต็ม

เพื่อเกาะขอบเวที ร่วมชมศึกเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก (ครั้งที่ 13) ประจำปี 2022  

หรือ The 13th World Bodybuilding & Physique Sports Championship 

ที่ประเทศไทยของเราได้รับเกียรติจาก สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) ให้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ  

ซึ่งการแข่งขันทั้ง 3 วัน จัดขึ้นกลางห้างดัง เซ็นทรัล ภูเก็ต ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน ประทับใจ 

มีชาวไทยและชาวต่างชาติแห่เข้าชมการประชันกล้ามของนักเพาะกายระดับเวิลด์คลาสจาก 44 ชาติทั่วโลกกันอย่างไม่ขาดสาย 

ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ของจังหวัดภูเก็ต ให้พลิกฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง 

หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 เล่นงานจนงอมพระรามไปกว่า 2 ปี จนเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศ หวิดจะกลายเป็นเมืองร้าง..ไปอย่างไม่น่าเชื่อ!

โดยพิธีเปิดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี “บิ๊กเปี๊ยก” พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา คนที่สาม และประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน 

ร่วมด้วย ดาโต๊ะพอล ชัวร์ ประธานใหญ่ WBPF และ บิ๊กศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขาธิการร่วมของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก

สำหรับผลงานของนักกีฬาไทยในฐานะเจ้าภาพศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้ สรุปแล้ว เราคว้าไปได้ทั้งหมด 10 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน และ 5 เหรียญทองแดง

ได้ครองถ้วยคะแนนรวม ทีมหญิง เป็นอันดับที่ 1 (375 คะแนน) 

ส่วนทีมชาย ไทย ได้ที่ 2 (600 คะแนน) โดยที่ 1 เป็นของ นักเบ่งกล้าม อินเดีย (715 คะแนน) ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยเกือบร้อยชีวิต มากกว่าของเราเกือบครึ่ง

ซึ่งนักเพาะกายทีมชาติไทย ที่คว้าแชมป์ในแต่ละรุ่น มีดังนี้...

จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์โลกสมัยที่ 5 : ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก.

ศิริพร ศรช่วย แชมป์โลกสมัยที่ 2 : ประเภทซีเนียร์ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. 

สาคร มาตรวังแสง แชมป์โลกสมัยที่ 5 : ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุเกิน 60 ปี

พรชัย ธรรมสังวาลย์ ได้แชมป์โลกครั้งแรก : ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม.

พัชรพงษ์ พจนะโกสีย์ แชมป์โลกสมัยที่ 2 : ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงเกิน 170 ซม. 

ตรีรักษ์ สระป้อมแก้ว ได้แชมป์โลกครั้งแรก : ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม.

ประกาศิต เครือบุตร ได้แชมป์โลกเป็นครั้งแรก : ประเภทสปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 180 ซม. 

เอกพล สุขทอง ได้แชมป์โลกสมัย 2 : ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม. 
อรอนงค์ อินทร์แก้ว ได้แชมป์โลก : ประเภทซีเนียร์ สปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม

และ ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ ที่ได้แชมป์โลกสมัย 2 : ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 170 ซม.

ซึ่งต้องปรบมือให้สำหรับทุกความสำเร็จ ที่ทีมเบ่งกล้ามไทยทำได้ในเวทีชิงแชมป์โลก

แต่ที่ต้องตีมือให้ดังๆ ก็คือความสำเร็จของฝ่ายจัดการแข่งขัน โดยทีมงาน “สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย” 

ที่ทำหน้าที่เจ้าภาพงานใหญ่ระดับโลกครั้งนี้...ได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงๆ 

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้มีโอกาสมาสัมผัสเวทีเพาะกายโลกถึงขอบสังเวียน 

ทำให้ได้เห็นถึงเบื้องหลังการทำงานหนักของทุกฟันเฟืองในสมาคมฯ อย่างแท้จริง 

“เพาะกาย” ไม่เหมือนกีฬาชนิดอื่นครับ 

เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยของนักกีฬาที่ต้องดูแลกันอย่างถึงกึ๋นจริงๆ 

ทั้งการกิน อยู่ พักผ่อน และฝึกซ้อม ทุกอย่างต้องเป๊ะตามตารางที่วางไว้

ดังนั้นทางเจ้าภาพ จึงต้องเน้นหนักให้ความสำคัญกับโรงแรมที่พักเป็นพิเศษ เรียกว่าเป็น “หัวใจ” ของการจัดงานเลยก็ว่าได้

ซึ่งต้องขอยกนิ้วทั้ง 2 โรงแรม คือ “โรงแรมดารา” และ “โรงแรมทราเวล ลอดจ์” ที่ทำหน้าที่รับรองยอดนักเบ่งกล้าม ได้ชนิดเพอร์เฟกต์ 

จนได้รับการชื่นชมจากทาง สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และทีมนักกีฬาจากทุกชาติ ยกให้ไทยจัดงานนี้ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง

ความสำเร็จจากการเป็นเจ้าภาพในคราวนี้ นับเป็นเครดิตของ “ประเทศไทย” ไปเต็มๆ 

เชื่อว่า นายกเพาะกาย “ศุกรีย์ สุภาวรีกุล” ที่ทำงานหนัก ชนิดตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอต มาตั้งแต่ต้นจนจบ 

คงจะภาคภูมิใจกับผลงานระดับมาสเตอร์พีช..ที่ปรากฏสู่สายตาชาวโลก ในห้วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา   

ก็ฝากถึงผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะ “กองทุนพัฒนากีฬาชาติ” 

ทุกสมาคมกีฬา เขาตั้งใจจัดทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติ 

เพื่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศด้วยกันทั้งนั้น

ในฐานะที่ท่านเป็นผู้กุมนโยบาย และให้การสนับสนุนเรื่อง “งบประมาณ” 

ขอความกรุณาช่วยเป็น “ลมใต้ปีก” ผลักดันให้ทุกๆ สมาคม ทำงานได้อย่างไหลลื่น (กว่านี้) ...ด้วยเถิด

อย่าให้ วงการกีฬาบ้านเรา ต้องถอยหลังลงคลอง  

เพียงเพราะความเบื่อหน่าย ในปัญหาบางสิ่งบางอย่างในองค์กรกีฬาชาติ 

ที่ “คนกีฬา” ทั้งหลาย...ในยุคนี้ 

เขาต่างก็รู้กันดีอยู่!!!    


- บี บางปะกง - 
joggingboy_be@yahoo.com