ความหวังของหมู่บ้าน

เรียบร้อยโรงเรียนเซราะกราวไปแล้วละครับ...

กับตำแหน่งแชมป์เลกแรกศึกไทยลีก ฤดูกาล 2022-23 ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

หลังขุนพล ปราสาทสายฟ้า บุกไปเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี ถึงแพท สเตเดียม 3-1 

เข้าวินครึ่งทางแรกไปอย่างชิล ชิล ด้วยสถิติสุดหรู เตะ 13 นัด โกยไปแล้วถึง 36 แต้ม 

และยังไม่เคยพลาดท่าปราชัยแม้แต่นัดเดียว

ซึ่งพวกเขามีโอกาสสูงลิ่วที่จะเป็น “แชมป์ไร้พ่าย” ของเลกนี้ 

ถ้าหากเกมฟรายเดย์ไนท์ ในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ที่จะถึง ไม่พลาดท่าแพ้คาบ้านต่อ ราชบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูงหมาดๆ 

พูดถึงความร้อนแรงของ “ราชันมังกร” ในฤดูกาลนี้ 

ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อย...เลยทีเดียว 

เพราะจากทีมที่ดิ้นรนหนีโซนสีแดงอย่างสุดฤทธิ์เมื่อซีซั่นก่อน

แถมยังมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างภายในสโมสร 

โดยเฉพาะการโบกมือลาของสปอนเซอร์ใหญ่ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมานาน อย่าง “น้ำตาลมิตรผล” 

ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลกับอนาคตของยอดทีมเมืองโอ่ง..ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใดต่อไป  

แต่ที่ไหนได้...การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แทนที่จะเป็น “วิกฤติ” 

กลับกลายเป็น “โอกาส” การพลิกโฉมครั้งใหญ่ของผู้บริหารสโมสร 

ที่นำโดย “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร์ และคุณแม่ บุญยิ่ง นิติกาญจนา ซึ่งเป็นเสาหลักของทีมมาโดยตลอด

ปัจจัยสำคัญที่สุด คือการตัดสินใจดึงโค้ชชาวสเปน “ชาบี โมโร” เข้ามากุมบังเหียนทีม 

โดยตอนแรก หลายคนก็ยังไม่ค่อยเชื่อหรอกว่า กุนซือนอกรายนี้จะเป็น “ของจริง” 

เพราะที่ผ่านมา ราชบุรี เปลี่ยนโค้ชต่างชาติมาแล้วหลายต่อหลายคน 

แต่สุดท้ายก็มาจบที่ “โค้ชเจี๊ยบ” สมชาย ไม้วิลัย ต้องกลับมาขัดตาทัพ (เหมือนเดิม) อยู่รำ่ไป! 

ใครเลยจะคิดล่ะว่า โค้ชกระทิงดุรายนี้ จะคือคนที่ “ใช่” สำหรับ ราชบุรี อย่างเหลือเชื่อ

ด้วยความที่ เจ้าตัว เคยผ่านประสบการณ์เป็นผู้ช่วยกุนซือ ของโค้ชโจเซฟ เฟร์เร ในทีมบางกอกกล๊าส มาก่อนเมื่อปี 2018 

ทำให้เขาพอมีข้อมูลฟุตบอลไทยเป็นพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว โดยไม่ต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ให้เสียเวลา 

โค้ชโมโร แสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถในการเลือกใช้นักเตะในสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี 

จิ๊กซอว์ที่ถูกดึงเข้ามาเสริมทัพแต่ละตัวทั้งแข้งไทยและแข้งเทศก็จัดว่ามีประสิทธิภาพ 

ไม่ว่าจะเป็นจอมเก๋า อย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม หัวใจหลักในแดนกลาง 

บวกกับการประสานงานอย่างลงตัวของแนวรุกต่างชาติ ทั้ง แดร์เลย์ และ อัลวิน ฟอร์เตส ที่ช่วยกันผลิตสกอร์อย่างต่อเนื่อง 

และเกมรับอันแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากความเหนียวแน่นของปราการหลังชาวโสม ปาร์ค จุน ฮยอง กับ ไฮน์ เพียว วิน วิงแบ็กทีมชาติเมียนมา   

เมื่อผสมกับการรีดเค้นศักยภาพของผู้เล่นเดิมๆ ที่มีอยู่ในทีมออกมาอย่างน่าดูชม 

ไม่ว่าจะเป็น ปฐมชัย เสือสกุล, สิทธิโชค กันหนู และตัวหลักที่เหลือคนอื่นๆ

ทำให้ “ราชันมังกร” ยุคใหม่สไตล์สแปนิช กลายเป็นบอลที่หลากหลาย ทั้งดุดัน และมีประสิทธิภาพ 

อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน !

ผลงานที่ผ่านมา 14 เกม ชนะ 8 เสมอ 5 และแพ้แค่นัดเดียว

ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย 

โดยเฉพาะ 2 เกมล่าสุดในไทยลีก ที่โชว์ความเหี้ยมเกรียม ด้วยการบุกไปขยี้ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี เละคาบ้าน 5-1 

ก่อนจะเปิดรัง ดรากอน โซลาร์ ปาร์ค ของตัวเอง ไล่ยิงสลุต “เดอะแรบบิต” อย่างขาดลอยเกินคาด 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

จนแซงขึ้นไปอยู่อันดับสองของตาราง..อย่างเจ๋งเป้ง 

โดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูง บุรีรัมย์ อยู่ 7 คะแนน 

ดังนั้น “ราชบุรี เอฟซี” จึงกลายเป็น ‘ความหวังของหมู่บ้าน’ 

ที่อาจจะทำให้แข้งเซราะกราวสะดุดได้...ในเกมสุดท้ายเลกแรก  

ส่งผลให้การลุ้นแชมป์ลีกไทย ในอีก 15 เกมที่เหลือ ของเลกที่สอง 

ยังพอน่าดูขึ้นมาบ้าง  !!! 

- บี บางปะกง - 
joggingboy_be@yahoo.com