หน้าแรกแกลเลอรี่

ปลุกสิงห์..ต้องใช้โสม

บี บางปะกง

18 พ.ย. 2565 06:00 น.

บอลถ้วยลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมหกรรม “ล้มยักษ์” เกิดขึ้นหลายคู่เลยล่ะครับ

โปลิศ เทโร ต้องจบเส้นทางแค่รอบนี้ เมื่อบุกไปพ่าย ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ทีมในไทยลีก 3 ด้วยสกอร์ 1-2

“กว่างโซ้งมหาภัย” ลีโอ เชียงราย ก็เจอทีเด็ดจ่าฝูงลีกพระรอง อยุธยา ยูไนเต็ด เฉือนชนะไป 1-0 กระเด็นตกรอบไปเรียบร้อย 

เช่นเดียวกับ ชลบุรี เอฟซี ที่กลายเป็น ‘ฉลามเขี้ยวหัก’ เมื่อต้องเสียท่าให้กับ นครปฐม ยูไนเต็ด จากไทยลีก 2 ไป 0-1 อีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ 

ทำให้ลูกทีมของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ต้องมีอันกระเด็นร่วงบอลถ้วย 2 รายการติด ด้วยน้ำมือพลพรรค “เสือป่าราชา” ที่มี “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี เป็นกุนซือใหญ่ 

และอีกคู่ที่ถือว่าพลิกล็อกเหนือความคาดหมายที่สุด ก็คือการตกรอบของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ยักษ์ใหญ่ไทยลีก 

ที่บุกไปปราชัยอดีตทีมดังภูธร “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ถึงเมืองแม่กลอง 0-1 

โดยเกมนี้ การท่าเรือ ที่เพิ่งแยกทางกับ โค้ชสก๊อตต์ คูเปอร์ มาหมาดๆ มอบหมายให้ แมตต์ ฮอลแลนด์ เป็นกุนซือขัดตาทัพไปก่อน 

ซึ่งตามหน้าเสื่อแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการเจอทีมในลีกล่าง เพราะขุมกำลังที่ส่งลงสนาม แม้จะพักตัวหลักไปหลายคน แต่ตัวที่มีอยู่ก็น่าจะเหลือเฟือแล้ว 

เนื่องจากอุดมไปด้วยดาวดังที่แบ่งเป็นอีกทีมลงลุยในไทยลีกได้สบายๆ   

ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด โรเชลา, ชาริล ชัปปุยส์, เบน เดวิส, ทิตาธร อักษาศรี, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, วิลเลียม เวเดอร์เฌอ, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, อดิศร พรหมรักษ์, วรวุฒิ ศรีสุภา ฯลฯ

แถมยังเป็น “บอลเปลี่ยนโค้ช” ที่ปกติมักจะมีผลงานที่ดีขึ้น..ด้วยกันทั้งนั้น!!

แต่..อนิจจา ทฤษฎีไหนๆ ก็ไม่มีผลต่อแข้งสิงห์เจ้าท่าทั้งนั้น 

เมื่อพวกเขายังคงสร้างความผิดหวัง เซ็งอารมณ์ ซำ้ซาก ให้กับบรรดาสาวกอยู่เป็นประจำ จนหลายคนชักชาชินซะแล้ว

ที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือ ประธานสโมสรหญิงจอมทุ่มเท อย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ 

ที่พยายามทำทุกวิถีทางให้ยอดทีมสโมสรระดับตำนานแห่งนี้คืนสู่ความยิ่งใหญ่อย่างยั่งยืน สมใจปรารถนา 

โดยห้วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง “มาดามแป้ง” เข้ามาครองอาณาจักร แพท สเตเดียม   

เธอทุ่มเม็ดเงินมหาศาลไปกับการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด โดยเฉพาะการเปลี่ยนเฮดโค้ชทั้งไทยและเทศถึง 16 ครั้ง รวม 13 คน 

แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีใครที่ตอบโจทย์ความต้องการของมาดามได้เลยแม้แต่คนเดียว 

ท่าเรือ ก็ยังเป็น ท่าเรือ ที่ผลงานเฉื่อยแฉะ ลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เหมือนเดิม 

ทั้งที่เป้าหมายของเธอ..อยู่ที่การทำทีมให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดบนบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดของบ้านเราให้จงได้

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหนล่าสุด ในรายของ สก๊อตต์ คูเปอร์ ก็เหมือนกัน 

ไม่มีเหตุผลอะไรที่ซับซ้อน มากไปกว่า การที่กุนซือชาวอังกฤษทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 

ทั้งที่สโมสรลงทุนกับการเสริมทัพตัวผู้เล่นระดับท็อปๆ มาให้ใช้งานอย่างชนิดเต็มพิกัดแล้ว

จากนี้..ก็คงต้องจับตาดู ว่ากุนซือคนต่อไปของ สิงห์เจ้าท่า จะเป็นใคร? 

ที่สำคัญจะเข้ามาสร้างความสำเร็จให้ทีมของมาดามได้จริงหรือไม่?

หลายคนคาดเดาไปต่างๆ นานาว่า การไปของ โค้ชสก๊อตต์ ในคราวนี้ 

อาจเป็นการเปิดทางให้ มาโน โพลกิง เข้ามาเสียบแทน หลังจบภารกิจคุมทีมชาติในศึกอาเซียนคัพ หลังปีใหม่นี้หรือเปล่า?

ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์ ก็มีทางเป็นไปได้ แต่โอกาสไม่มาก 

เพราะเชื่อว่า “มาดามแป้ง” คงไม่รอนานขนาดนั้น และคงจะมองหาโค้ชคนใหม่เอาไว้บ้างแล้ว 

ซึ่งตกลงหวยจะออกที่ใคร ก็คงเป็นช่วงพักเลกนี่แหละ...คงได้รู้กัน 

แต่ในส่วนตัวแล้ว ถ้าจะให้แนะนำ ก็อยากให้มาดามลองปฏิวัติทีมครั้งใหญ่ 

ด้วยการจ้างกุนซือที่เน้นระเบียบวินัยแบบเข้มข้นเข้ามาทำทีมดูสักครั้ง 

สเปกของโค้ชพลังโสมเกาหลีใต้อย่าง ปาร์ค ฮัง ซอ ที่กำลังจะอำลาทีมชาติเวียดนามนี่แหละ น่าจะเข้าท่า

“โค้ชเทกุ” มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตกุนซือซามูไรของ บีจี ปทุม ก็น่าสนใจ 

หรือจะเล่นของแพงหน่อย ก็ติดต่อจ้างอดีตโค้ชช้างศึก อากิระ นิชิโนะ ไปเลย รับรองโดนใจกองเชียร์แน่ๆ

แต่มีข้อแม้ว่า อ.โนะ ต้องมีสตาฟฟ์จากญี่ปุ่นเข้ามาช่วยงานด้วย..ถึงจะเวิร์กจริง 

ด้วยคาแรกเตอร์ผู้เล่น และปัญหาเรื้อรังของการท่าเรือ ที่แก้ไม่หายสักทีจนถึงปัจจุบัน 

เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ “มาดามแป้ง” ต้องหันมาใช้ “ยาแรง” ด้วยกุนซือจากชาติเหล่านี้อย่างจริงจัง

ดีที่สุดสำหรับแข้งสิงห์เจ้าท่า ...ผมว่าโค้ชโสมนี่แหละ...ชะงัดนักแล 

ไม่เชื่อลองถาม “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดูก็ได้!!!

 
- บี บางปะกง - 
joggingboy_be@yahoo.com