บี บางปะกง
พักนี้ผมเชียร์บอลทีมไหน...มักไม่ได้ดั่งใจเลยล่ะครับ ทั้งบอลไทย บอลนอก
เดือนที่แล้วกะฉลองถ้วยใหม่ฟุตบอลคิงส์คัพกับทีมช้างศึกของเราซะหน่อย!
ที่ไหนได้ดันมาพ่ายยิงจุดโทษ เสือเหลือง มาเลเซีย คาบ้าน อดเข้าชิงฯ แบบเสียอารมณ์กันทั้งประเทศ
ส่วนวันอาทิตย์ที่เพิ่งผ่านไป หันมาลุ้นบอลสโมสรพรีเมียร์ลีกดูบ้าง
“ปิศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรัก ก็มาโดนคู่แข่งร่วมเมือง แมนฯ ซิตี้ สอนบอลไปซะหมดทางสู้ 6-3
ยิ่งเป็นบอลไทยลีก ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะทีมยอดขวัญใจอันดับหนึ่ง อย่าง “เมืองทอง ยูไนเต็ด” ที่ก่อนเปิดซีซั่น...ทำท่าจะดูดี มีอนาคต
แต่พอเอาเข้าจริง ผลงานในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลกลับย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
เมื่อชนะเพียงนัดเดียวจาก 7 นัดแรก ทำให้ปัจจุบันรั้งอันดับ 10 ของตาราง มีเพียง 6 คะแนนเท่านั้น
โดยเฉพาะ 2 เกมบิ๊กแมตช์ล่าสุด ที่โดนคู่แข่งถล่มซะตูดขาดวิ่น!
แพ้คารังต่อ ชลบุรี เอฟซี ไป 1-5 ยังไม่พอ ยังบุกมาโดน “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถลุงพ่ายไปอีก 0-3 ที่บีจี สเตเดี้ยม สดๆร้อนๆ
ดังนั้นความกดดันมหาศาล จากการคาดหวังของแฟนบอลกิเลนก่อนหน้านี้ มันจึงถาโถมเข้าใส่คนเป็นกุนซือ “โค้ชโอ้” มาริโอ ยูรอฟสกี้ อย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ซึ่งหลายคนชักใจร้อน ทนไม่ไหว จนมีกระแสเรียกร้องให้ปลด มาริโอ พ้นเก้าอี้เฮดโค้ชไป...ซะให้มันรู้แล้วรู้รอด!
เรียกว่าถ้าเป็นโค้ชคนอื่น โดนแรงกระเพื่อมขนาดนี้ อาจถอดใจไขก๊อกลาออกไปแล้ว
แต่นั่นไม่ใช่วิถีของ“ยอดนักสู้” อย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี
ที่ยืนยันว่ายังไง เขาไม่คิดจะลาเก้าอี้โค้ชใหญ่กิเลนในตอนนี้แน่
โดยเจ้าตัวระบุว่า ถ้าเขาออกตอนนี้ ก็เหมือนคนขี้ขลาด และทิ้งภาระให้คนอื่นเข้ามารับไม้ต่อ ซึ่งมันไม่ใช่แนวทางของตัวเองเอาซะเลย!
ซึ่ง “โค้ชโอ้” ยังมั่นใจในแนวทางที่ทำอยู่ ว่าสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้ และเชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้นในอนาคต (อันใกล้) อย่างแน่นอน
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ อดีตกุนซือทีมชาติไทย “มิโลวาน ราเยวัช”
ถูกดึงเข้ามากู้วิกฤติในตำแหน่ง ‘เทคนิคอล ไดเรกเตอร์’ (technical director) หรือ ‘ผู้อำนายการฝ่ายเทคนิค’ ของสโมสร ท่ามกลางเซอร์ไพรส์ของสาวกกิเลน
โดยส่วนใหญ่ต่างเข้าใจว่า ราเยวัช น่าจะเข้ามาจ่อที่จะเสียบแทน โค้ชมาริโอ ในอีกไม่ช้า..ไม่นาน
รวมทั้งตัวผมเองก็คิดเช่นเดียวกัน!
จนกระทั่งได้มีโอกาสคุยกับ “บิ๊กป๊อก” วิลักษณ์ โหลทอง ประธานใหญ่เมืองทอง ที่เล่าถึงเบื้องหน้า เบื้องหลังของดีลนี้ให้ฟังว่า...
ในส่วนตัวแล้วตนไม่รู้จักกับโค้ชราเยวัชเลย รู้แต่ว่าเป็นอดีตกุนซือทีมชาติไทยที่โดนเด้งจากตำแหน่งเมื่อหลายปีก่อน
"แต่ทั้งหมดเป็นความต้องการของ มาริโอ ซึ่งอยากจะได้ที่ปรึกษามาช่วยดูภาพรวมของสโมสร"
ซึ่งเขาก็ได้เลือก ราเยวัช ซึ่งเป็นโค้ชประสบการณ์สูง เพื่อเข้ามาเป็น “ตัวช่วย” ในการกู้วิกฤติกิเลนผยองในครั้งนี้
นัยว่าทั้งคู่เคยเป็นคนชาติเดียวกัน (ยูโกสลาเวีย) พูดจาภาษาเดียวกัน ซึ่งน่าจะสื่อสารกันง่าย (กว่า) โค้ชคนอื่น
ที่สำคัญ มาริโอ น่าจะมองเห็นประโยชน์ ในการเข้ามาช่วย “ขันเกมรับ” ที่เป็นปัญหาของทีมในปีนี้ ของอดีตเฮดโค้ชช้างศึกผู้นี้
เพราะ ราเยวัช มีความถนัดจัดเจนเป็นพิเศษ ในการปรับให้ทีมมีกองหลังที่แข็งแกร่ง..แน่นปึ้กมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ซึ่งนี่คือ “จุดอ่อน” สำคัญ...ที่ทำให้ เมืองทอง ผลงานเหลวเป๋ว ไม่เป็นสับปะรดแมว ในช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา
นอกจากนี้ “บิ๊กป๊อก” ยังยืนยันอย่างหนักแน่นกับผมว่า....
“เมืองทองไม่มีแพลนที่จะปลดโค้ชโอ้แต่อย่างใด เพราะเขาคือกุนซือที่เป็นอนาคตของสโมสรอย่างแท้จริง”
ที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ผ่านการอบรมโค้ช ‘เอไลเซนส์’ จากยูฟ่ามาแล้วด้วย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะแยกทางกับเขา
แม้เมืองทองจะออกสตาร์ตฤดูกาลไทยลีกไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ก็เชื่อว่า มาริโอ จะปรับจูนทุกอย่างให้ลงตัวได้ในที่สุด
"โดยเป้าหมายของ เมืองทอง ก็ยังคงเหมือนเดิม คือทำผลงานให้ขึ้นไปอยู่ “ท็อปไฟว์” ของตารางให้ได้...ในท้ายที่สุด"
ซึ่งต้องมารอดูกันว่าการดึง ‘มิโลวาน ราเยวัช’ เข้ามาเป็น “ตัวช่วย” ของโค้ชโอ้
มันจะเวิร์กสำหรับกิเลนจริงหรือเปล่า?
สูตรฟุตบอลเมืองทองหลังจากนี้ “โค้ชมาริโอ” เดินเกมรุกบุกแหลก
โดยมี “โค้ชราเยวัช” เข้ามาช่วยอุดรูรั่วในแผงรับให้อย่างจริงจัง
อีก 4 นัดที่เหลือในเดือนตุลาคมนี้
ถ้าผลงานเมืองทอง...ยังไม่กระเตื้องขึ้นอีก
ก็ตัวใคร..ตัวมัน ล่ะคร้าบบบ... พี่น้อง !!!
- บี บางปะกง -