หน้าแรกแกลเลอรี่

ห้ามพลาด "อาเซียน พาราเกมส์" ระเบิดศึก 30 ก.ค.-6 ส.ค.นี้ ที่อินโดนีเซีย

ไทยรัฐออนไลน์

22 ก.ค. 2565 15:59 น.

"อาเซียน พาราเกมส์" ระเบิดศึกชิงชัย 30 ก.ค. - 6 ส.ค.นี้ โดยทาง "การกีฬาแห่งประเทศไทย ชวนคนไทยติดตามเชียร์ให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทย

วันที่ 22 ก.ค. 65 ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม ถึงวันที่ 6 สิงหาคมนี้ โดย นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าฝ่ายยุทธศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการแถลงข่าวการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย ที่บริเวณด้านหน้า อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ในงานได้รับเกียรติจาก ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู ผู้แทนคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, พันโทรุจ แสงอุดม ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) และตัวแทนนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย อาทิ วัชรพล วงษา เหรียญทองบอคเซีย พาราลิมปิก 2020, พรโชค ลาภเย็น เหรียญเงิน พาราลิมปิก 2020 และ วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ เหรียญทองบอคเซียประเภททีม พาราลิมปิก 2020 ร่วมงานแถลงข่าวถ่ายทอดสด และแถลงความพร้อมของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย

นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าฝ่ายยุทธศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า "การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 ก.ค. - 6 ส.ค.นี้ กกท.ได้ให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งงานด้านพัฒนาศักยภาพและวิทยาศาสตร์กีฬาแก่ทีมกีฬาทั้ง 14 ชนิดกีฬา โดยสนับสนุนให้เริ่มเก็บตัวตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 รวมระยะเวลาเก็บตัวเพื่อทำศึกหนนี้ต่อเนื่อง 7 เดือน ซึ่งจากการติดตามและประเมินผลการฝึกซ้อมของ กกท.ที่ทำร่วมกับชนิดกีฬาต่างๆ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ และทุกคนก็พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปทำการแข่งขันและคว้าชัยชนะกลับมาฝากพี่น้องชาวไทย"

รองผู้ว่า กกท. ยังเผยอีกว่า "ในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซียนั้น กกท.ได้มีการประสานความร่วมมือไปกับทางผู้จัดการแข่งขันเพื่อขอนำสัญญาณถ่ายทอดสดกลับมายังประเทศไทยในตลอดช่วงระยะเวลาการแข่งขัน โดยจะทำการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) แบบจุใจตลอดการแข่งขัน เพื่อให้แฟนๆ กีฬาชาวไทยได้ร่วมลุ้น และเชียร์ทัพนักกีฬาไทยไปพร้อมๆ กัน"

ด้าน ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู ผู้แทนคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เผยว่า "น่าเสียดายที่สถานการณ์โควิด-19 เกิดการระบาดหนักในช่วงปี 2019-2020 ทำให้การแข่งขันครั้งที่ 10 ที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้นถูกยกเลิกไป ส่วนครั้งนี้อินโดนีเซียรับหน้าที่จัดแทนประเทศเวียดนาม ตามความเห็นชอบของ สหพันธ์กีฬาอาเซียน (APSF) โดยจะมีนักกีฬาจาก 11 ชาติทั่วอาเซียน นักกีฬากว่า 1,500 คนร่วมชิงชัยกันใน 14 ชนิดกีฬา ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเราส่งครบทุกชนิดกีฬา"

"ในส่วนของการแข่งขันรอบนี้ ทัพนักกีฬาไทย 70 เปอร์เซ็นต์เป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติสูง อีก 30 เปอร์เซ็นต์ คือสายเลือดใหม่ที่มีการผลักดันเข้ามาเสริมความสดและความแข็งแกร่ง เรื่องของเป้าหมายในการชิงชัย เรายังคงหวังว่าทัพนักกีฬาคนพิการของไทยจะสามารถคว้าได้อย่างน้อยๆ 70 เหรียญทอง ส่วนคู่แข่งสำคัญที่จะเบียดแย่งเจ้าเหรียญทองกับเรา ก็หนีไม่พ้น อินโดนีเซีย เจ้าเหรียญทองเมื่อครั้งก่อน ปี 2017 รวมถึงก็ยังประมาท มาเลเซีย และเวียดนามไม่ได้เช่นกัน"

ขณะที่ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เผยว่า "สำหรับนักกีฬาคนพิการเป็นกลุ่มนักกีฬาที่กองทุนฯ ให้ความสนใจในการส่งเสริมและสนันสนุน ด้วยที่นักกีฬาคนพิการมีความทุ่มเท อดทน และมุมานะในการฝึกฝนไม่ต่างจากคนปกติ ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาคนพิการไทยก็สร้างชื่อเสียง และสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทยมาแล้วอย่างมากมาย ซึ่งที่ผ่านมากองทุนฯ ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมตั้งแต่ช่วงของการฝึกซ้อม ช่วงของการแข่งขัน และหลังจบการแข่งขัน โดยเฉพาะการมอบเงินรางวัลตอบแทนความมุ่งมั่นจากการคว้าเหรียญรางวัล ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้รางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” พ.ศ. 2562 จะมอบให้เหรียญทองละ 200,000 บาท, เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท

ด้าน พันโทรุจ แสงอุดม ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) เผยถึงความพร้อมในการเตรียมการถ่ายทอดสดว่า "นอกจากการรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากทางเจ้าภาพแล้ว ได้มีการจัดเตรียมทีมถ่ายทอดสดนอกสถานที่ ทีมข่าว และทีมผลิตรายการไฮไลต์ เพื่อให้ผู้ชมชาวไทยได้ติดตามชมและเชียร์นักกีฬาและเกาะติดการแข่งขันได้ทาง T Sports 7 ซึ่งจะทำการถ่ายทอดสดรวมมากกว่า 20 ชั่วโมงตลอดการแข่งขัน ทั้งผ่านสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) และช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ T Sports 7 อีกด้วย

สำหรับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ทั้ง 14 ชนิดกีฬา ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 310 คน ดังนี้ กรีฑา ประเภทลู่และลาน 69 คน, ว่ายน้ำ 40 คน, แบดมินตัน 27 คน, เทเบิลเทนนิส 40 คน, ยกน้ำหนัก 13 คน, วอลเลย์บอลนั่ง 22 คน, วีลแชร์บาสเกตบอล 24 คน, โกลบอล 12 คน, บอคเซีย 11 คน, ยิงธนู 13 คน, วีลแชร์เทนนิส 11 คน, หมากรุก 9 คน, ฟุตบอล 14 คน และยูโด 5 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ประสานงาน แพทย์ พยาบาล ไกด์รันเนอร์ ผู้ช่วยเหลือ ผู้ฝึกสอน และเทคนิค อีก 169 คน รวมไทยส่งคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาร่วมศึกครั้งนี้ทั้งสิ้น 479 คน