โอกาสสำคัญ

เดินเกมรุกออกมาจากกลุ่มจังหวัดอันดามัน ที่ประกอบไปด้วย จ.ภูเก็ต, จ.กระบี่ และ จ.ตรัง ซึ่งจะขอเสนอตัวเป็นแคนดิเดตในการจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 หรือ พ.ศ.2568 อีก 3 ปีเศษๆข้างหน้า อันเป็นไปตามวงรอบที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในเวลานั้น

เป็นการขยับนำเสนอในจังหวะที่ต่อเนื่องหลังมีการทำโพล และเผยแพร่ออกข่าว จากการสำรวจความคิดเห็นเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งมีการระบุว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ติดอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เหมาะกับการเป็นเจ้าภาพ และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวนำร่องเป็นระยะๆมาแล้ว

รวมทั้งยังมีจังหวัดอื่นๆที่ก็แสดงเจตจำนง สนใจ และมั่นใจในความพร้อมของตน ในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ อาทิ จ.อุบลราชธานี, จ.สงขลา หรือแม้แต่ จ.เชียงใหม่ ที่เคยจัดมาแล้ว ยังรวมถึงเมืองที่วางไว้เป็นตุ๊กตา เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย และปักหมุดแสดงการยืนยันเป็นเจ้าภาพของไทยไว้แต่แรก คือ กรุงเทพฯ และ จ.ชลบุรี

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า กระแสในระยะหลัง การเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ของเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ดูจะหายไปเลย แทบไม่มีใครคิด หรืออยากให้มาลงในเมืองกรุง

แม้กระทั่งพลันที่กรุงเทพฯได้ผู้ว่าฯคนดัง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เรตติ้งถล่มทลาย ก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจกับกีฬาซีเกมส์

ว่าไปแล้วก็ถือว่ามีเหตุมีผลในตัวมันเอง กีฬาซีเกมส์น่าจะเป็นประโยชน์ ได้ประโยชน์ มากมายหลายมิติ กับการไปแข่งขันในต่างจังหวัดมากกว่าเมืองกรุง

ขอเพียงฉลาดคิด ฉลาดเลือก และฉลาดทำ

มาถึงตรงนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า กีฬาซีเกมส์ จะมุ่งสู่ต่างจังหวัด ส่วนจะเป็นที่ไหน ก็ต้องดูการพิจารณา ซึ่งการพิจารณาที่ว่านั้น อยู่ที่ใครเป็นคนคิดจริงๆ

จะเป็นการกีฬาแห่งประเทศไทย จะเป็นบอร์ด โอลิมปิกไทย เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หรือ จะเป็นนโยบายทางการเมือง ตรงนี้สำคัญ

การขับเคลื่อนของการนำเสนอในแต่ละจังหวัด หรือกลุ่ม ก็มีความพยายามหาจุดโยงเข้าการเมือง หรือนักการเมือง เพื่อมีแต้มต่อ อันเป็นธรรมชาติของเมืองไทยไปแล้ว

ขณะที่นโยบายทางเศรษฐกิจ หรือแผนงาน แนวคิดของรัฐบาล จะมีส่วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญด้วยหรือไม่ อย่างเช่น แผนในการสร้างสนาม ที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างน้อยก็ 2 แห่ง ที่โยงกับนโยบายที่มี หนึ่งในนั้นคือสนามกีฬาแห่งชาติแห่งใหม่ ขนาด 80,000 ที่นั่ง ซึ่งเตรียมเผื่อไว้กับแผนจัดฟุตบอลโลกของชาติอาเซียน สร้างในพื้นที่อีอีซี บริเวณแถบ จ.ชลบุรี อันมีพื้นที่ถึง 2,000 ไร่ มีแผนทำสนามกีฬาหลายชนิดเสียด้วย

หรือที่มีการไปสำรวจยัง จ.ภูเก็ต ที่ตำบลไม้ขาว เป็นที่ของกรมธนารักษ์ ตอนนี้สิทธิ์ผู้ครองที่ดินเป็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขนาดย่อมหน่อย 238 ไร่ มีการเล็งจะทำสนามฟุตบอลขนาดความจุ 20,000 ที่นั่ง และรวมถึงใช้สำหรับกีฬาหลายชนิดด้วย ตลอดจนรองรับการมาเก็บตัวฝึกซ้อมของทีมต่างประเทศ

การเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้คือโอกาส โอกาสที่จะใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณูปโภคด้านกีฬาของกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง

ก็หวังว่าจะมีการพิจารณาโดยเปิดเผย รอบด้าน และสามารถอธิบายถึงเหตุและผลในการเลือกต่อสาธารณชนได้อย่างกระจ่างแจ้ง

การเมืองเพลาๆไว้นิด แต่ก็น่าห่วงด้วยช่วงจังหวะเวลา จะเป็นก่อนหรือหลังการเลือกตั้งใหญ่ ล้วนมีรังสีของการเมืองแผ่เข้ามาปกคลุมด้วยทั้งนั้น ก็คงต้องอาศัยสังคมนี่แหละ ต้องจับจ้อง และสนใจ!

การจัดซีเกมส์เป็นโอกาสที่สำคัญยิ่ง จงคิดเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง...

“เบี้ยหงาย”