ไทยรัฐฉบับพิมพ์
บทความนี้เหมาะมากสำหรับยุคนี้ยุคที่ “กาแฟ” เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้วเพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” นำมาโพสต์เอาไว้ ได้ความรู้ดี แถมมีเซอร์ไพรส์ด้วยกาแฟมีผลกับการออกกำลังกายอย่างไร
วันนี้หยิบผลการวิจัยเกี่ยวกับกาแฟและการออกกำลังกายมาฝากกันครับ ลองมาอ่านกันดูว่า กาแฟ มีผลดีหรือผลเสียกับการออกกำลังกายยังไงบ้าง
ผลการวิจัยที่ 1
เป็นผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Sports Medicine ระบุไว้ว่า กาแฟเป็นสารเออร์โกเจนิก (Ergogenic) ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย ทำให้รู้สึกมีพละกำลังมากขึ้น รู้สึกเมื่อยล้าน้อยลง บรรเทาอาการปวด และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
ผลการวิจัยที่ 2
ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร British Journal of Sports Science พบว่า คนที่ดื่มกาแฟก่อนที่จะวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นระยะทาง 1.5 กม. จะสามารถทำเวลาได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ 4.2 วินาที ซึ่งถ้าหากเป็นการแข่งขันละก็...ช่วงเวลาไม่กี่วินาที ก็ใช้ชี้ชะตาผู้แพ้ผู้ชนะได้เลยนะเนี่ย
ผลการวิจัยที่ 3
นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่า คนที่ดื่มกาแฟในปริมาณ 1 แก้วก่อนออกกำลังกาย จะมีการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ ซึ่งเมื่อการไหลเวียนเลือดดีขึ้น กล้ามเนื้อก็ได้รับออกซิเจนมากขึ้น เป็นผลดีกับการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความอึด
ผลการวิจัยที่ 4
เคยมีผลการวิจัยเป็นการศึกษาแบบ Meta-analysis พบว่า กาแฟช่วยลดการรับรู้ของการออกแรงได้มากกว่า 5% ซึ่งช่วยให้รู้สึกว่าวิ่งได้ง่ายขึ้น ลดอาการเมื่อยล้าในขณะวิ่ง และรักษาประสิทธิภาพในการวิ่ง
ผลการวิจัยที่ 5
ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ค้นพบว่า อาสาสมัครที่ดื่มกาแฟ 2 แก้วก่อนออกกำลังกาย 30 นาที จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อน้อยกว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ เชื่อกันว่ากาแฟจะไปบล็อกกระบวนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการเมื่อยล้า รวมถึงภาวะสมองล้าด้วย
กาแฟจะส่งผลดีต่อการออกกำลังกาย ตราบใดที่เราไม่ได้ดื่มเยอะจนเกินไป มีคำแนะนำบอกไว้ว่า...ปริมาณคาเฟอีนที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ จะอยู่ที่ 1.2-2.5 มก. ต่อน้ำหนักของร่างกาย 0.45 กก.
และเราควรดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง.
ยุบสภา