จ่าแฉ่ง
และแล้ว “มหากาพย์” แห่งการแข่งขันชิงแชมป์บาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและสนุกที่สุดของโลกอย่าง NBA ของสหรัฐฯ ประจำฤดูกาล 2021–2022 แต่เรียกกันย่อๆว่า NBA 2022 ก็จบลงเมื่อ 10 นาฬิกาเศษๆ วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน ตามเวลาไทยแลนด์
“แชมป์” ตกเป็นของยอดทีมจาก สายตะวันตก “โกลเดนสเตต วอร์ริเออร์ส” แห่งเมืองซาน ฟรานซิสโกตามที่ผู้สันทัดกรณีทุกๆฝ่ายคาดหมายไว้
หลังจากที่ “นักรบทองคำ” ซึ่งเอาชนะในเกมที่ 5 ที่บ้านตัวเองด้วยสกอร์ 104-94 ขึ้นนำ 3-2 เกม ก่อนจะเดินทางมาสู้กับ บอสตัน เซลติกส์ ในเกมที่ 6 ณ สนามของบอสตันดังกล่าว
กองเชียร์ของทีมแชมป์สายตะวันออกยังพอมีความหวังอยู่บ้างว่าการเล่นในถิ่นตัวเองอาจจะทำให้ เซลติกส์ มีลูกฮึดต่อลมหายใจเอาชนะ
โกลเดนสเตต เพื่อตีเสมอ 3-3 แล้วไปตัดสินในเกมที่ 7 ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายที่เรียกกันว่า “เกมฎีกา” ใครชนะก็ชนะเลยไม่มีการแข่งขันต่อไปอีก
ที่ไหนได้ สตีฟ เคอร์ กุนซือใหญ่ของ “นักรบทองคำ” ตัดสินใจเผด็จศึกวางแผนและสั่งการให้นักรบทุกคนทุบหม้อข้าวเอาชนะให้ได้ในเกมนี้เลย
ซึ่งก็ปรากฏว่าขุนพลเอกอย่าง สตีเฟน เคอร์รี ก็ไม่ทำให้เจ้านายและชาวซานฟรานซิสโกผิดหวัง...ชู้ตได้ถึง 34 แต้ม และรีบาวด์ 7 ครั้ง แอสซิสต์ 7 ครั้ง เป็นกำลังหลักของทีมเช่นเคย
ผนวกกับ แอนดรูว์ วิกกินส์ ที่ช่วยทำอีก 18 แต้ม และ เคลย์ ทอมป์สัน กับ เดรย์มอนด์ กรีน อีกคนละ 12 แต้ม ทำให้ โกลเดนสเตตวอร์ริเออร์ส ชนะไปได้อย่างขาดลอย
และทันทีที่การแข่งขันจบลงคณะกรรมการของ NBA ก็โหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้ สตีเฟน เคอร์รี ได้รับตำแหน่ง MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่าไปครอบครอง...ถือเป็นโบนัสอีก 1 โบนัสของฤดูกาลนี้หลังจากที่เขาคว้า MVP ของแชมป์สายตะวันตก มาแล้วก่อนหน้านี้
นับเป็นชัยชนะได้ครองแชมป์ NBA เป็นสมัยที่ 4 จากการเข้าชิง 6 ครั้ง ในรอบ 8 ปี ของทีม นักรบทองคำ ภายใต้การควบคุมของโค้ช สตีฟ เคอร์ วัย 56 ปี
เขานำ โกลเดนสเตต ครองแชมป์ครั้งแรกเมื่อปี 2015 ด้วยการพิชิต คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 4-2 แล้วมาได้หน 2 ในปี 2017 จากการพิชิตคลีฟแลนด์เช่นเคย ตามมาด้วยหน 3 ปี 2018 ด้วยการเฉือนคลีฟแลนด์อีกครั้ง
ปี 2020 โกลเดนสเตตก็ได้ชิง แต่แพ้ให้กับโตรอนโต แร็พเตอร์ส และจ๋อยไป 2 ฤดูกาลเต็มๆ ก่อนจะกลับมาผงาดในฤดูกาลนี้ (2022) ในที่สุด
ขอแสดงความยินดีแก่ทีม นักรบทองคำ ในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็ขอปลอบใจ บอสตัน เซลติกส์ คู่ชิงที่จะว่าไปก็สู้อย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว
สำหรับกุนซือ อีีเม ยูโดกา นั้นก็อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะอายุแค่ 44 ปี และนี่ก็เป็นปีแรกของเขาสำหรับการขึ้นเฮดโค้ชของบอสตันเท่ากับยังมีเวลาแก้ตัวอีกเยอะ
รวมทั้ง “ขุนพล” บอสตัน อย่าง เจย์สัน เททัม ที่เกมสุดท้ายชู้ตได้แค่ 13 แต้ม ก็อย่าได้ท้อเช่นกัน...เจ้าหนุ่มรายนี้เพิ่งอายุ 24 ปี ถือว่ายังหนุ่มยังแน่นมาก ยังมีเวลาที่จะกลับมาแบก บอสตัน เซลติกส์ ได้อีกนาน
เมื่อแสดงความยินดีแก่ผู้ชนะและปลอบใจผู้แพ้เสร็จแล้ว “จ่าแฉ่ง” ก็คงต้อง “เก็บฉาก” อเมริกันเกมส์ ว่าด้วยบาสเกตบอล NBA ไว้เพียงเท่านี้ก่อน
สัปดาห์หน้า และอีกสัก 3-4 สัปดาห์ถัดไป เราคงจะหันไปคุยถึงกีฬาประเภทอื่นๆ ขัดตาทัพกันไปพลางๆ...แต่หลังจากนั้นก็จะกลับมาสู่“อเมริกันเกมส์” ที่แฟนๆติดตามเยอะ อย่าง อเมริกันฟุตบอล กันอีกครั้ง
จ่าแฉ่งเพิ่งพลิกปฏิทินดู 4 สิงหาคมนี้เอง จะเริ่มแข่ง “ปรีซีซัน” กันแล้ว... เห็นไหมครับว่าอีกแป๊บเดียวจริงๆ เราก็จะมีความสุขกันอีกหนกับกีฬา “คนชนคน” อันสุดมัน.
“จ่าแฉ่ง”