บี บางปะกง
(ต่อตอนที่แล้ว) หลังไฟในกระถางคบเพลิงของฮานอยเกมส์ 2021 มอดลง เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง KBU SPORT POLL ได้มีการสำรวจในประเด็นเดียวกันระหว่าง 1-3 มิถุนายน 2565
เมื่อถามถึง จังหวัดหรือเมืองที่ควรเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 31.06ระบุ กรุงเทพมหานครและกระจายไปทั่วทุกภาคที่มีความพร้อม
รองลงมาได้แก่ ภาคใต้ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคเหนือ กทม.ปริมณฑล และภาคกลาง ตามลำดับ
ในโพลยังถามต่อไปว่า ศักยภาพของจังหวัดที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพควรจะมีคุณลักษณะหรือมิติที่เกี่ยวข้องอย่างไร
ส่วนใหญ่ระบุถึงความพร้อมของสนามและศูนย์ฝึก ตามด้วยการคมนาคม การสื่อสาร แหล่งท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรม ความปลอดภัยที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ
เหนืออื่นใดยังถามต่อไปว่า ปัจจัยรองรับและการสนับสนุน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ รองลงมาเป็นเรื่องของแหล่งงบประมาณ การสนับสนุนและการตัดสินใจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การมีส่วนร่วมของหน่วยราชการและองค์กรปกครองท้องถิ่น การมีส่วนร่วมของประชาชน/ภาคเอกชน และอื่นๆ
ที่น่าสนใจโพลดังกล่าวเมื่อเจาะไปที่รูปแบบจัดการแข่งขัน ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการบรรจุชนิดกีฬาสากลเป็นหลัก ต่อด้วยการส่งเสริมสนับสนุนเตรียมการนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง การตัดสินที่ยุติธรรมโปร่งใส การมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับมิตรภาพมากกว่าผลการแข่งขัน
สำหรับ ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับจากการจัดการแข่งขัน ส่วนใหญ่ระบุการสร้างชื่อเสียงให้กับพื้นที่และประเทศ รองลงมา การกระจายรายได้สู่ชุมชน ความตื่นตัวของการส่งเสริมสนับสนุนการกีฬา การเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวและศิลปะ วัฒนธรรม การตื่นตัวของภาคประชาชน
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่แสดงออกมาให้เห็นนั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าบริบทของสังคมไทยประกอบกับการที่เวียดนามจัดการแข่งขันซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเลิศทางการกีฬา การมีส่วนร่วมของประชาชน การกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน และที่ตามมาอีกหลายประเด็น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่จะส่งเสริมการกีฬาและการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับทุกภูมิภาค
การพิจารณาสถานที่หรือจังหวัดที่มีความพร้อม โดยเฉพาะสนามหรือศูนย์กีฬาในความรับผิดชอบของการกีฬาแห่งประเทศไทยและผนึกกับภาคส่วนขององค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีความพร้อมภายใต้การสนับสนุนของภาคประชาสังคมทั้งภาครัฐและเอกชน
คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
แต่อีกหนึ่งในมิติที่ควรพิจารณาคือเมื่อชาติอื่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรามักจะบอกว่าไม่เป็นมาตรฐานสากล การเอาเปรียบหรือการอำนวยความ
สะดวกที่เป็นอุปสรรคตลอดจนการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและอีกหลายๆดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่เนืองๆ
ดังนั้นเมื่อวาระของ มหกรรมซีเกมส์2025 จะเวียนมาบรรจบที่บ้านเราอีกคำรบหนึ่ง
คำกล่าวที่ว่า “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” คงจะไม่มีให้พบเห็นนะ จะบอกให้
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร
OOOOOOO
กีฬาซีเกมส์ 2025 ในบ้านเรา จัดที่จังหวัดไหน...ก็ดีทั้งนั้นล่ะครับ
ขออย่างเดียวให้ยกระดับเป็นซีเกมส์ยุคใหม่
ที่เน้นแต่ “กีฬาสากล” เป็นพอ!!!
บี บางปะกง