โอกาสพิเศษ

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม จบไปเกือบๆจะ 2 สัปดาห์แล้ว หลายสมาคมกีฬาก็ฉลองความสำเร็จ มอบรางวัลให้กับนักกีฬาของตนไปแล้ว ส่วนภาครัฐยังรอกำหนดวันนัดมอบเงินรางวัลพิเศษกันอีกที คงรอเคลียร์คิวกันอยู่ว่าจะลงล็อกเมื่อไหร่

เรื่องเงิน เรื่องรางวัล เรื่องฉลองก็ว่ากันไป

ขณะที่บางกีฬาก็เริ่มเดินสายแข่งขันกันต่อบ้างแล้วในเกมต่างๆ ซึ่งก็เป็นวงจรกีฬาที่ต้องมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดนิ่ง

ยังไงก็หวังว่าคงไม่ลืมผลงานจากซีเกมส์ที่ผ่านมา ไม่ได้ตำหนิ ไม่ได้ติติง แต่ความจริงที่เกิดขึ้นคือ ทีมไทยของเราได้อันดับสองและเป็นอันดับสองของเหรียญกีฬาสากลที่มีแข่งขันในโอลิมปิกเสียด้วย

นั่นคือการพลาดเป้า พลาดหวัง แม้ว่าจะมีหลายกีฬาที่โดดเด่นและทำได้ดีเยี่ยม นำความสุขมาให้ชาวไทยทั้งมวลก็ตาม!

แต่ในเชิงกีฬา ความพ่ายแพ้ต้องนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยผ่าน ลืมๆกันไป หรือ ยกเหตุหรือหาเหตุอื่นๆมาเป็นผลให้ยอมรับในการ “แพ้” นั้นได้อย่างสบายใจ

ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขนั้น ก็ต้องใช้การวางแผน เตรียมการ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับนักกีฬาของเรา อันเป็นหน้าที่ของสมาคมกีฬาต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลและสนับสนุนช่วยเหลือของการกีฬาแห่งประเทศไทย

และดูจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ซีเกมส์ครั้งต่อไป ครั้งที่ 32 ซึ่งกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และกำหนดจัดช่วง 5-16 พ.ค.2566 นั่นคืออีก 11 เดือนเศษๆข้างหน้า ซึ่งที่เร็วกว่าปกติ ไม่ใช่วงรอบ 2 ปีเหมือนก่อน ก็ด้วยอิทธิฤทธิ์ของโควิด-19 ที่ทำให้เวียดนามต้องขยับมาจัดในปีนี้ ส่วนกัมพูชาเป็นวงรอบเดิม

ดังนั้นทัพนักกีฬาไทยมีโอกาสที่จะพิสูจน์กันอีกครั้งในเวลาไม่ถึงปี และไม่เท่านั้น จากฤทธิ์โควิดเช่นกัน ทำให้กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ซึ่งเดิมเมืองหางโจว ของจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดระหว่าง 10-25 ก.ย.ปีนี้ แต่จำต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า ปี 2566 แทน แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่กำหนดวันอย่างเป็นทางการ แต่คนกีฬาก็รับรู้อยู่ว่าจะจัดช่วงเวลาเดิมคือเดือน ก.ย.2566 ด้วยหากขยับเป็นอื่นจะกระทบกับเกมอื่นๆ ของเอเชีย ต้องวุ่นวายอย่างมหันต์

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปีหน้า ปี 2566 จะเป็นโอกาสพิเศษ เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่กีฬาซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ แข่งต่อเนื่องในปีเดียวกัน

ความพิเศษหรือไม่ปกตินี้แหละ จะเป็นโอกาสของนักกีฬา ของสมาคมกีฬา ในการเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขัน ซึ่งสองเกมห่างกันราวๆ 3 เดือนเศษ และแน่นอนตัวนักกีฬาหลายชนิดกีฬาจะเป็นคนเดียวกัน นั่นทำให้การเตรียมตัว ฝึกซ้อม ต้องมีการวางแผนให้สอดรับกัน ขณะเดียวกันการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ต้องมีแผนในการสนับสนุนเช่นกัน

เชื่อว่าสมาคมกีฬาจะใช้โอกาสนี้ให้นักกีฬาได้ซ้อม ได้แข่งอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน ทำได้จริงหรือไม่ ไม่ใช่เพียงการวาดหวัง วางโครงร่างให้การซ้อมนานขึ้น เพื่อได้รับงบประมาณที่มากขึ้น แต่ต้องเกิดประสิทธิภาพได้จริงและเห็นผล!

1 ปีกับ 2 เกมข้างหน้า จะสร้าง จะคัด บ่มเพาะเพิ่มศักยภาพกันอย่างไร เป็นเวลาที่ไม่นานเลย ขอจงใช้โอกาสพิเศษนี้ให้คุ้มค่า ที่พลาดไปก็ต้องแก้ไขให้ได้ ที่ดีอยู่แล้วต้องดียิ่งขึ้น และส่งต่อถึงเอเชียนเกมส์ให้ได้

ขณะเดียวกันโอกาสพิเศษนี้ ใช่แต่เป็นมุมบวก แต่หากเกิดผลตรงข้าม ก็จะตระหนักและรับรู้ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ถ้าซีเกมส์ล้มเหลว เอเชียนเกมส์จะเป็นตัวซ้ำอย่างหนัก ในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกันทันที

เตรียมตัวกันให้ดี ทำงานกันได้แล้ว...

“เบี้ยหงาย”