ไทยรัฐออนไลน์
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตั้งทีมงานลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์และประเมินผลงาน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งสู่ความเป็นเลิศให้ทัพนักกีฬาไทยทุกสมาคม ที่เตรียมความพร้อมไปลุยศึก 4 มหกรรมกีฬาใหญ่ ประเดิมมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ประเทศเวียดนาม
การกีฬาแห่งประเทศไทย วางแผนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของ กกท. รวมทั้งจัดจ้างผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันที่มีความรู้ความสามารถอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ามาวิเคราะห์และประเมินผลงานของนักกีฬาไทย โดยในเบื้องต้นมีมหกรรมกีฬาใหญ่ที่ต้องติดตามประเมินผล รวมทั้งหมด 4 มหกรรมกีฬา ประกอบไปด้วย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.65, อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-6 ส.ค.65, เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 10-25 ก.ย.65 และปิดท้ายด้วยเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 9-15 ต.ค.65
ล่าสุดได้มีการส่งทีมคณะทำงานวิเคราะห์และประเมินผลงานลงพื้นที่ไปยังสมาคมต่างๆ รวมทั้งสิ้น 41 สมาคม โดยได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายในการประเมินออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเข้าร่วมการแข่งขัน, กลุ่มเข้ารอบดีที่สุด, กลุ่มลุ้นเหรียญรางวัล และกลุ่มความหวังเหรียญทอง โดยจะใช้แนวทางการพิจารณานักกีฬาแต่ละกลุ่ม ด้วยแนวทางใน 4 มิติ คือ ศักยภาพนักกีฬา, วิทยาศาสตร์การกีฬา, เวชศาสตร์การกีฬา และความรู้ด้านสารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่งแนวทางทั้ง 4 มิตินั้น จะสามารถดึงศักยภาพของนักกีฬาออกมาใช้อย่างเต็มที่ อย่างถูกที่ถูกเวลา โดยเป้าหมายแรกก็คือการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ประเทศเวียดนาม หลังจากนั้นก็จะไล่เรียงไปตามโปรแกรมการแข่งขันในระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ด้านนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เปิดเผยว่า "ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ได้รับการอนุมัติจัดจ้าง ม.เกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษา เพื่อวิเคราะห์การพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวม วิเคราะห์และประเมินการเตรียมทีมนักกีฬาไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติ จากนั้นจะนำเสนอแนวทางให้กับ กกท. ในการสนับสนุนงบประมาณและปรับปรุงการเตรียมทีมนักกีฬา สำหรับการแข่งขันมหกรรมกีฬาทั้ง 4 รายการ ผลที่คาดว่าจะได้รับก็คือ กกท. จะได้เห็นภาพรวมของข้อมูลการเตรียมนักกีฬาสำหรับการแข่งขันทั้ง 4 มหกรรม รวมทั้งยังสามารถกำหนดแนวทางในการสนับสนุนนักกีฬาในแต่ระยะเวลาของการฝึกซ้อมและปรับปรุงการเตรียมนักกีฬา สำหรับการแข่งขันทั้ง 4 มหกรรม เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดความคุ้มค่าและสามารถนำเหรียญรางวัลมาสู่ประเทศได้ตามที่คาดการณ์ไว้"
สำหรับการประเมินความพร้อมของนักกีฬาทีมชาติ เพื่อเข้าแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติรายการต่างๆ กำหนดไว้ดังนี้ ซีเกมส์ ประเมิน 1 ครั้ง, เอเชียนเกมส์ ประเมิน 4 ครั้ง (สำหรับสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ให้ใช้ผลการประเมินซีเกมส์ 2 ครั้ง ประกอบ), อาเซียนพาราเกมส์ 2 ครั้ง และเอเชียนพาราเกมส์ 1 ครั้ง