ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โลกของกีฬาเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายโปรแกรมแข่งขันมีอันต้อง เลื่อน หรือแม้กระทั่งเลวร้ายถึงขั้นถูกยกเลิกไปเลยก็มี
อย่างไรก็ตามล่าสุดถือว่าประเทศไทยได้รับข่าวดีเมื่อได้กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิป” อีกครั้ง หลังจากต้องหยุดพักไปนาน 2 ปีเต็ม
รายการนี้เป็นรายการใหญ่ มีแชมป์ระดับทวีปเป็นเดิมพันฤดูกาล 2022 จะมีชิงชัยทั้งสิ้น 6 สนาม ใน 5 ชาติ
ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพถึง 2 สนาม ได้แก่ สนามแรก ระหว่างวันที่ 25–27 มี.ค. และสนามสุดท้ายของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 18–20 พ.ย. ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ส่วนอีก 4 สนามที่เหลือนั้น ประกอบด้วย สนาม 2 วันที่ 27-29 พ.ค. ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย, สนาม 3 วันที่ 1-3 ก.ค. (ยังไม่ระบุสนามแข่ง), สนาม 4 วันที่ 12-14 ส.ค. ที่สปอร์ตแลนด์ ซูโก้ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น, สนามที่ 5 วันที่ 9-11 ก.ย. ที่จูไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศจีน
ปีนี้การชิงแชมป์มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ เอเชีย ซุปเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี, ซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี, เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี และอันเดอร์โบน 150 ซีซี
ทีมแข่งชั้นนำทั่วโลกจาก 16 ประเทศ ส่งนักบิดในสังกัดเข้าร่วมช่วงชิงเจ้าความเร็วค่ายรถชั้นนำของไทย ทั้งฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ก็ส่งนักบิดเข้าร่วมลุยศึกครั้งนี้รวมแล้ว 7 คน
ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ไว้ใจให้ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ลงแข่งขันในรุ่นเอเชีย ซุปเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ส่วน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ และ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ลงรุ่นซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี นอกจากนี้ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ก็จะลงบิดในรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี
ขณะที่ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่อุดมไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ นำโดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ “ตี” อนุภาพ ซามูล จะลงแข่งขันในรุ่นเอเชีย ซุปเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี และ “โฟล์ท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จะป้องกันแชมป์ 5 สมัยของทีมในรุ่นซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี
แน่นอน...การเป็นเจ้าภาพ “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิป 2022” ครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญสำหรับเราอย่างมาก เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศรวมทั้งยังเป็นการโชว์ถึงความพร้อมของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วจากการจัดศึกซุปเปอร์ไบค์ชิงแชมป์ประเทศไทย แบบเต็มฤดูกาล และงานวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน” ที่มีนักวิ่งและผู้ร่วมงานหลายหมื่นคน
และส่วนตัวก็เชื่อว่ารายการนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยยืนยันอย่างหนักแน่นได้ว่า ประเทศ ไทยสามารถจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในระดับสากลได้ดี แบบไม่มีที่ติ
ก่อนที่เราจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพรายการ (อภิมหา) ใหญ่อันดับ 1 ของโลกอย่าง “โมโตจีพี 2022” ในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้.
ยุบสภา