เบี้ยหงาย
นับแต่ “วาดา” หรือองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก แถลงการณ์ประกาศแบนประเทศ ไทย ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2564 อันสืบเนื่องจากประเด็นเกี่ยวกับการไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญด้านสารต้องห้ามของ “วาดา” ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก
โดยลงโทษใน 4 หัวข้อ สรุปง่ายๆก็ไม่สามารถร่วมเป็นกรรมการและรับทุนสนับสนุนจากวาดาได้, กรรมการชาวไทยในสหพันธ์กีฬานานาชาติจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี, ไม่สามารถจัดกีฬานานาชาติระดับภูมิภาค ทวีป และโลก ยกเว้นโอลิมปิกกับพารา ลิมปิกเกมส์ และห้ามใช้ธงชาติไทย เพลงชาติไทย ในกีฬาระดับภูมิภาค ทวีป และโลก
จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 3 เดือนเศษ กำลัง จะเข้าสู่เดือนที่ 4 การแก้ไขของไทยอย่างที่ทราบกันดี ก็คือการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ก็ต้องถือว่ารวดเร็วพอควร โดยรัฐบาลมีการออก เป็นพระราชกำหนดซึ่งก็ได้มีการประกาศใช้พระราช กำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สาร ต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555 พ.ศ.2564 ในราชกิจจา นุเบกษา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2564 ดังที่ทราบกันแล้ว
และมาดำเนินกระบวนการภายหลังการประกาศใช้พระราชกำหนด ให้ครบถ้วน ซึ่งต้องเสนอพระราชกำหนดดังกล่าวต่อรัฐสภาโดยไม่ชักช้า
ก็ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภามาเรียบร้อย เท่ากับเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด
ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี ก็ได้ส่งรายละเอียดต่างๆ
ที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการโดยเสร็จสิ้นแล้ว ไปยังกรรมการ อิสระที่รับผิดชอบดูแลในส่วนนี้ ก่อนกรรมการดังกล่าว จะส่งเรื่องเวียนไปยังคณะกรรมการบริหารของ “วาดา” ภายในวันที่ 2 ก.พ.
โดยผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี นั้น แสดงความมั่นอกมั่นใจแบบไม่ต้องกั๊ก วัดกันไปเลย เมื่อประกาศถึงความเชื่อมั่นว่าหลังวันที่ 2 ก.พ. เมื่อคณะกรรมการบริหารของวาดามีการประชุมพิจารณากันจะต้องมีมติยกเลิกโทษแบนทั้ง 4 ข้อต่อไทย
นับว่ากล้าหาญเหลือเกิน!
ด้วยเป็นการคาดเดาต่อมุมมองของคณะกรรมการ ที่สำคัญยังเชื่อเต็มเปี่ยมว่าเพียงแค่การประชุมครั้งนี้ ก็จะมีมติยกเลิกโทษแบนต่อประเทศไทยในทันที
ทั้งๆที่เมื่อดูเงื่อนเวลา การลงโทษไทยมีกำหนด 1 ปี แต่เมื่อนับตั้งแต่วันที่ถูกลงโทษจนถึงวันนี้และ รวมถึงวันที่คาดว่าจะมีการพิจารณาและนำไปสู่การยกเลิกโทษแบนไทยนั้น รวมคร่าวๆก็จะเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของบทลงโทษเท่านั้น
ก็หวังว่าจะเป็นไปดังที่คาด ซึ่งจะเป็นเรื่องดี และแทบจะเป็นความมหัศจรรย์ในการแก้ปัญหาและนำมาซึ่งการปลดโทษได้อย่างรวดเร็วเกินคาด อย่างยิ่ง
ย้ำอีกที ถ้าเป็นไปตามนั้นจะเป็นเรื่องดีที่ต้องยกเครดิตให้ทุกฝ่ายกับการล้างมลทินให้กับวงการกีฬาไทยครั้งนี้ เรื่องที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป
วันวานมีการเผยแพร่ภาพและข่าวออกมาได้ เห็นธงชาติไทยโบกสะบัดอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้ว่า ในกีฬาโอลิมปิกจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโทษแบนของไทยเรา
อย่างน้อยได้เห็นธงชาติไทยโบกสะบัดในเกม กีฬาสำคัญ ในช่วงเวลาที่เรากำลังนับถอยหลังรอการพิจารณาของ “วาดา” น่าจะเป็นฤกษ์ดี
และหวังว่าจะมีข่าวดีออกมาดังที่วาดหวัง...
“เบี้ยหงาย”