ไทยรัฐฉบับพิมพ์
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เป็นปัญหาหลักของคนทั่วโลกในรอบสองปีที่ผ่านมา แม้ล่าสุดสถานการณ์เริ่มจะคลี่คลายลงไปบ้างก็ตาม แต่ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้มากนัก
ล่าสุดเกิดการกลายพันธุ์เป็น “โอมิครอน” ขึ้นมาอีก แม้ใครจะมองว่าสายพันธุ์ใหม่นี้จะไม่หนักเท่ากับที่ผ่านมา แต่เราก็ไม่ควรประมาทและการ์ดอย่าตก ควรมีมาตรการป้องกันเป็นอย่างดี ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชนและหมั่นล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ ย่อมทำให้เกิดความปลอดภัยอยู่เสมอ
ผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะที่ผ่านมาสร้างความปั่นป่วนและความเสียหายอย่างมากในทุกหย่อมหญ้า เศรษฐกิจพังพินาศ หลายกิจการต้องปิดตัวลง คนตกงานเป็นจำนวนมาก
ขณะที่วงการกีฬาถือว่าหนักหนาไม่แพ้กันเห็นได้จากทุกชาติทั่วโลกล้วนต้องประสบปัญหานักกีฬาติดเชื้อโควิดไปตามๆกัน บางคนรักษาหายขาดเป็นปกติ แต่บางคนก็ต้องปลดระวางตัวเองหลังจากที่รักษาโควิดหาย เหตุเพราะสภาพร่างกายไม่เหมือนเดิมโดยเฉพาะระบบหายใจที่อาจไม่เหมือนกับคนปกติ
ขณะที่ไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา “วงการมวย” ดูเหมือนจะถูกยกให้เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ หลังมีการตรวจพบมีจำนวนคนติดเชื้อภายในสนามมวยหลายคนจนทำให้ต้องลุกลามบานปลายใหญ่โตและต้องงดโปรแกรมที่วางไว้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ในหนนี้กลับเป็น “วงการลูกหนัง” ที่มีการระบาดหนัก นักเตะหลายสโมสรพากันติดเชื้อระนาว อย่างเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายสโมสรฟุตบอลในไทยลีกอย่าง “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฯลฯ ก็ติดกันเพียบกว่าครึ่งค่อนทีม
ทำให้ต้องเลื่อนหรือขยับการแข่งขันออกไปจากกำหนดเดิม รวมถึงกีฬานักเรียนของกรมพลศึกษาที่ล่าสุด “สโมสรศรีสมาน เอฟซี” ของโรงเรียนราชวินิต บางเขน มีการติดเชื้อหลายคนทำให้ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน
ขณะที่สมาคมฟุตบอลภายใต้การนำนาวาของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ควรต้องมีบทบาทและวิธีการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงคุณภาพของนักบอลเป็นสำคัญ ไม่ใช่เน้นแต่การแข่งขัน ในสถานการณ์แบบนี้ความจริงไม่ต้องมี “ทัวร์นาเมนต์” ที่เยอะ แต่ควรเน้นรายการสำคัญก็พอ เชื่อว่าหลายสโมสรเข้าใจดี
โดยเฉพาะกฎระเบียบและข้อบังคับ หากสโมสรไหนมีนักเตะติดเชื้อโควิดต้องไม่ปิดบัง ควรแจ้งเป็นการด่วนไปยังสมาคมฟุตบอลเพื่อจะได้หาทางป้องกัน เพื่อไม่ให้ลุกลามหรือแพร่ไปยังสโมสรอื่น
สมาคมควรเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่หลบหน้า ที่ผ่านมาเห็นหลายสโมสรที่นักเตะติดเชื้อ แต่ดูเหมือนสมาคมจะไม่ค่อยมีบทบาทคอยเป็นที่พึ่งหรือเป็นผู้นำให้กับสโมสรได้เลย อย่างโปรแกรมแข่งก็ไม่ชัดเจนทั้งที่ทางสโมสรมีการแจ้งว่านักเตะติดโควิดขอเลื่อนการแข่งขัน
แต่สมาคมกลับทำงานอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ในฐานะผู้นำองค์กรต้องออกมาฟันธงไปเลยว่า “เลื่อน” ไม่ต้องมาร้องเพลงรอ ชีวิตคนไม่ใช่ผัก ปลานะครับ อย่าลืมว่า “โควิด–19 หรือโอมิครอน” ไม่ใช่สิ่งมาล้อเล่น
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาให้ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะผู้เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุขและภาครัฐ ควรต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดและจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้ไวรัสมรณะลุกลามไปมากกว่านี้
อย่าลืมว่าประเทศกำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการ หากเราไม่ควบคุมหรือมีมาตรการที่รัดกุมเข้มข้นอาจเกิดปัญหาและส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจและประชาชนได้
คำว่าไม่ประมาทการ์ดอย่าตกยังคงใช้ได้ดีในสถานการณ์ช่วงนี้ครับ.
โจโจ้ซัง