หน้าแรกแกลเลอรี่

ฟันเฟืองขาดหาย ส่อเค้าลาง เป้าหมายโอลิมปิก

พัลลภ ศรีไพรวัลย์

26 ธ.ค. 2564 05:15 น.

ไม่ว่ากีฬากี่ยุคกี่สมัยกีฬามวยสากลยังคงเป็นที่จับจ้องและเป็นความหวังของคนไทยมาตลอด โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ ที่ถือว่าเป็นงานสุดหินที่สุดกว่าจะได้มาแต่ละครั้งเลือดตาแทบกระเด็น

แต่หลังจาก “พเยาว์ พูลธรัตน์” สามารถเปิดประวัติศาสตร์จารึกชื่อบนทำเนียบโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จด้วยการคว้าเหรียญทองแดง เมื่อปี 1976 ที่แคนาดา

จากนั้นเป็นต้นมาทุกคนจะจับจ้องและเฝ้าส่งกำลังใจเชียร์นักชกไทยทุกครั้งเวลาที่ขึ้นทำหน้าที่บนเวทีแทบทุกรายการ โดยเฉพาะเกมนานาชาติทั้งซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์

ถึงวันนี้มวยเสื้อกล้ามก็ยังเป็นขวัญใจของคนทุกเพศทุกวัยทุกกลุ่มอายุ และก็ประสบความสำเร็จมาตลอดจนเมื่อปี 1996 ดูเหมือนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

หลัง “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ สามารถประเดิมทองแรกให้กับคนไทย หลังจากนั้นเป็นต้นมาประเทศไทยก็ไม่เคยห่างหายจากเหรียญทองเลย

จวบจนโอลิมปิกเกมส์ 2012 “ลอนดอนเกมส์” ผลงานนักชกไทยเริ่มไม่เข้าเป้าได้เพียงเหรียญเงินกลับมาเท่านั้น ซ้ำร้ายในโอลิมปิกเกมส์อีก 2 ครั้งนักชกไทยพลาดเป้ามาตลอด

แม้ล่าสุดเมื่อปี 2020 “โตเกียวเกมส์” นักชกสาวไทยจะคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์กลับมา แต่ก็ยังไม่ถือเป็นความสำเร็จทีี่ตรงตามเป้าหมายอย่างแท้จริง

วันนี้สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยได้นายใหญ่หน้าเดิม “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร กลับมาบัญชาการอีกครั้ง ในการไล่ล่าความสำเร็จจากภารกิจมากมายที่รออยู่ในอีก 3 ปีที่เหลือในตำแหน่ง โดยเฉพาะในปี 2565 จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของทีมงานชุดใหม่ไล่ตั้งแต่ซีเกมส์ ที่เวียดนาม ในเดือน พ.ค. ต่อด้วยเอเชียนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน ในเดือน ก.ย. และการไล่ล่าเก็บโควตาเพื่อลุยโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ทั้งหมดทั้งมวลล้วนจะพลาดไม่ได้

ตอนนี้หลายคนต่างจับจ้องมองไปที่ตำแหน่ง สำคัญ “ประธานพัฒนาเทคนิค” ที่ถือเป็นศูนย์รวมใจของนักมวยว่าใครจะมานั่งบัญชาการ ที่ผ่านมา “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ถือว่ากุมหัวใจทั้งนักมวยและกลุ่มสตาฟฟ์โค้ชได้อย่างไม่มีที่ติ

แทบจะเรียกได้ว่า “สมชาย” เป็นทุกอย่างของสมาคมกีฬามวยอย่างแท้จริง ไม่ว่าเกิดปัญหาหรือติดขัดอะไรแก้ได้หมด ตั้งแต่ส่วนตัวจนถึงส่วนรวมแต่ก็ไม่ใช่ว่า “บิ๊กชาย” คือพระเจ้าที่สามารถบันดาลความสำเร็จให้กับสมาคมมวย ทุกอย่างต้องเกิดจากความมีระเบียบวินัยและขยันฝึกซ้อมของนักมวยเป็นหลัก

เพียงแต่ที่ผ่านมา “บิ๊กชาย” จะดูแลเอาใจใส่นักมวยยิ่งกว่าไข่ในหินและทุ่มเทกับหน้าที่ “ประธานเทคนิค” แบบเกินร้อย โดยเฉพาะเรื่องกำลังใจและสวัสดิการกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีบกพร่อง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตำแหน่ง “ประธานเทคนิค” เปรียบเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญของทีมในการขับ เคลื่อนไปสู่ความสำเร็จ หากเมื่อใดฟันเฟืองสะดุดไม่สมบูรณ์ความสำเร็จหรือเป้าหมายก็พลอยสะดุดไปด้วย

จำไว้เถอะครับไม่ว่าสมาคมไหนก็ตามหากนักกีฬา “กินอิ่มนอนหลับ” ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวก “เหลือบในวงการ” เมื่อนั้นความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม แต่เมื่อใดตรงกันข้ามฟันธงไปเลย “ล้มเหลว” ไม่ว่ารายไหนรายนั้น ซึ่งก็มีให้เห็นมาแล้วนับไม่ถ้วน

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำไมนักกีฬาไทยถึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเกมระดับนานาชาติเหมือนกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะ “โอลิมปิกเกมส์”

หากวันนี้เรายังกำจัดพวก “เหลือบ” ให้หมดไปจากวงการกีฬาที่มีแอบแฝงในทุกสมาคมไม่ได้ คำว่า “เป้าหมาย ความสำเร็จ” คงไม่ต้องพูดถึง.

พัลลภ ศรีไพรวัลย์ เรื่อง

ชาติชาย จันทรวัติ ภาพ