หน้าแรกแกลเลอรี่

พระมหากษัตริย์นักกีฬา

บี บางปะกง

13 ธ.ค. 2564 05:05 น.

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า วันที่ 16 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ มีความสำคัญต่อวงการกีฬาไทยเป็น อย่างยิ่ง ทั้งนี้ เนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2529 ที่ประชุมมีมติกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันกีฬาแห่งชาติ

สาระสำคัญที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันกีฬาแห่งชาตินั้น สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิ พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการกีฬาอย่างอเนกอนันต์ ตลอดจนทรงมีพระปรีชาชาญทางด้านการกีฬาในหลากหลายชนิด

และจากพระปรีชาชาญทางด้านการกีฬาที่ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดในโลกจะเสมอเหมือนไม่ว่าจะทรงเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยซึ่งชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบประเภทโอเคในกีฬาแหลมทอง หรือซีเกมส์เดิมครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ครั้งที่ 4 ในปีพุทธศักราช 2510

ซึ่งจากพระมหากรุณาธิคุณตลอดจนพระปรีชาทางด้านการกีฬาในมิติต่างๆนั่นเองพระองค์จึงเป็น พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลก ที่ได้รับการถวายพระเกียรติคุณและทูลเกล้าฯถวายรางวัลอิสริยาภรณ์โอลิมปิกชั้นสูงสุด (ทอง) จากคณะกรรมการโอลิมปิกสากลในการประชุมครั้งที่ 92 ที่ประเทศตุรกี

ในขณะเดียวกัน ในปีพุทธศักราช 2543 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล “ลาลาลูนิสคัพ” เพื่อเชิดชูและประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลที่เคยเป็นนักกีฬาดีเด่นและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งนายฮวน อันโตนีโอ
ซามารานช์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และคณะ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลี พระบาทเพื่อถวายรางวัลดังกล่าว พร้อมกับถวายพระพรเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2543 ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล หัวหินอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อวงการกีฬาไทยนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าพระองค์ทรงเข้าใจและเข้าถึงการกีฬาเป็นอย่างมาก ซึ่งครั้งใดที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติไม่ว่าจะเป็นกีฬาแหลมทอง (ซีเกมส์เดิม) หรือเอเชียนเกมส์ พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีการเปิดการแข่งขันเสมอๆ

สำหรับนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง เมื่อมีการจัดการแข่งขันกีฬารายการสำคัญๆ อาทิ การแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์โลก หากครั้งใดที่ทรงว่างเว้นจากพระราชกรณียกิจพระองค์ก็จะเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันและทรงพระราชทานกำลังใจแก่นักกีฬาอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้คณะนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันได้เข้าเฝ้าอยู่เนืองๆอีกด้วย

ที่น่าสนใจสำหรับวงการสื่อสารมวลชนทางการกีฬานั้น ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ได้รับพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งครั้งหนึ่งคณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้รับการโปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าฯเพื่อเตรียมการจัดงานมอบรางวัลให้กับนักกีฬาดีเด่น และในวโรกาสสำคัญนั้น พระองค์ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะผู้เข้าเฝ้าซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการสื่อกีฬาอย่างหาที่สุดมิได้ ดังความตอนหนึ่งว่า

“กีฬามีประโยชน์หลายด้านและสมควรที่จะส่งเสริมในทางที่ถูกต้องในการกีฬาเพื่อความสามัคคีและเพื่อให้คุณภาพของมนุษย์ดีขึ้นมา เวลานี้การกีฬาก็นับว่ามีความสำคัญในทางอื่นด้วยคือในทางสังคม ทำให้คนในประเทศชาติได้หันมาปฏิบัติสิ่งที่เป็นประโยชน์ในทางสุขภาพของร่างกายและจิตใจ ทำให้สามารถที่จะอยู่เป็นสังคมอย่างอยู่เย็นเป็นสุข ทั้งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเจริญของบ้านเมือง และโดยเฉพาะในการกีฬาระหว่างประเทศก็ได้เพิ่มความสำคัญกับมนุษย์อื่น ซึ่งอยู่ในประเทศอื่น ฉะนั้น กีฬามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของแต่ละคนและชีวิตของบ้านเมือง ถ้าปฏิบัติกีฬาอย่างถูกต้องหมายถึงว่าอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสามารถ ก็จะได้นำชื่อเสียงแก่ตนและแก่ประเทศชาติ ถ้าปฏิบัติกีฬาด้วยความเรียบร้อยด้วยความสุภาพก็ทำให้มีชื่อเสียงเหมือนกัน และจะส่งเสริมความสามัคคีในประเทศชาติ การที่สมาคมได้ส่งเสริมการกีฬาโดยมีการเลือกนักกีฬายอดเยี่ยม เพื่อเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาก็เป็นสิ่งที่ดีมากและสมควรที่จะปฏิบัติต่อไป ขอให้วางหลักเกณฑ์ให้ดีเพื่อที่จะได้เป็นการส่งเสริมการกีฬาโดยแท้” (18 กันยายน 2516 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน)
มาถึงวันนี้จะเห็นได้ว่าจากกระแสพระบรม ราโชวาทดังกล่าว หากผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาไทยทุกภาคส่วนได้น้อมนำไปสู่การปฏิบัติก็จะเกิดประโยชน์แก่วงการกีฬาอย่างอเนกอนันต์ และเนื่องในโอกาสที่วันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2564 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

จึงขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยโดยเฉพาะบุคคลในวงการกีฬาจงร่วมกันน้อมเกล้าน้อม กระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้เพื่อร่วมสืบสานพระราชปณิธานในการรังสรรค์สังคมและวงการกีฬาให้เจริญก้าวหน้าสืบไป

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

OOOOO

16 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของวงการกีฬาไทย

เราโชคดีเหลือเกินครับที่เคยมี “พระราชาผู้ยิ่งใหญ่”

ซึ่งเป็นแบบอย่างของพสกนิกรในทุกๆด้านอย่างแท้จริง

คำว่า “พระมหากษัตริย์นักกีฬา” คือความภาคภูมิใจสูงสุด

นี่คือมิ่งมหามงคล...ของชาวกีฬาทั้งปวง

อันหาที่สุดมิได้ครับ.

บี บางปะกง