เลือดนักสู้ "ใบสน" เข่าเจ็บแต่กัดฟันซิวทองชิงแชมป์ประเทศไทย

ใบสน มณีก้อน นักชกโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 69 กก.หญิง ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าขวา ก่อนกัดฟันเอาชนะคะแนน จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง จากกองทัพอากาศ 5-0 คว้าเหรียญทอง ขณะที่ "เพชรจีจ้า" นิลดา มีคุณ นักชกกองทัพเรือ โชว์ฟอร์มเหนือชั้นทุบ จุฑามาศ จิตรพงศ์ นักชกดีกรีโอลิมปิกเกมส์ 2020 สังกัดกองทัพอากาศ 5-0 คว้าแชมป์รุ่น 51 กก.หญิง พร้อมกับตำแหน่งนักชกหญิงยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เช่นเดียวกับ อธิชัย เพิ่มทรัพย์ นักชกเจ้าของเหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 สังกัดสนง.ตำรวจแห่งชาติ เอาชนะแต้ม สิทธิศักดิ์ จูมกุมาร 5-0 ซิวเหรียญทองพร้อมตำแหน่งนักชกชายยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในศึกมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.

วันที่ 4 ธ.ค. 64 นายพิชัย ชุณหวชิร สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคม ให้เกียรติเป็นประธานพิธีปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมฯ และตัวแทนจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในศึกมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 รอบชิงชนะเลิศ ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.

คู่เอก รุ่น 69 กก.หญิง ใบสน มณีก้อน นักชกดีกรีโอลิมปิกเกมส์ 2020 สังกัดสนง.ตำรวจแห่งชาติที่มีอาการบาดเจ็บหัวเข่าขวา พบ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง จากกองทัพอากาศ ผลปรากฏว่า ใบสน ใช้ความแข็งแกร่งและออกหมัด ได้จะแจ้งเป็นฝ่ายชนะคะแนน อย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0 คว้าเหรียญทองแม้จะได้รับบาดเจ็บก็ตาม

"มีอาการเจ็บหัวเข่ามาสักพัก ตอนฝึกซ้อม เนื่องจากวิ่งสปีดแล้วกล้ามเนื้ออักเสบ หลังจบทัวร์นาเมนต์นี้จะเข้ารักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับซีเกมส์ที่เวียดนามและชิงแชมป์โลกที่ตุรกี โดยตั้งเป้าหากติดทีมชาติไปแข่ง และจะเอาเหรียญทองมาฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้" ใบสนกล่าว

ขณะที่รุ่น 51 กก.หญิง "เจ้าเฟี้ยว" จุฑามาศ จิตรพงศ์ นักชกสาวทีมชาติชุดลุยโอลิมปิกเกมส์ 2020 ลงแข่งในนามกองทัพอากาศ พบ "เพชรจีจ้า" นิลดา มีคุณ นักชกจากกองทัพเรือ ผลปรากฏว่า สองยกแรก ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างสูสี ผลัดกันต่อยทำคะแนน แม้จุฑามาศจะเดินหน้าออกอาวุธ แต่นิลดา ใช้ต่อยดักจังหวะสองได้หลายครั้ง ทั้งลำตัวและใบหน้าทำคะแนนได้ดีในยกสุดท้าย ครบ 3 ยก นิลดา มีคุณ เป็นฝ่ายชนะคะแนน 5-0 คว้าเหรียญทองไปครองชนิดหักปากกาเซียนพร้อมซิวตำแหน่งนักชกหญิงยอดเยี่ยม

ด้าน อธิชัย เพิ่มทรัพย์ นักชกเจ้าของเหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์2018 สังกัดสนง.ตำรวจแห่งชาติ เอาชนะคะแนน สิทธิศักดิ์ จูมกุมาร(กองทัพบก)5-0 คว้าเหรียญทองรุ่น69กก.พร้อมรางวัลนักชกชายยอดเยี่ยมขณะที่ รุ่น63กก.หญิง "น้องเมษา"นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2018 สังกัดกองทัพเรือ เอาชนะ นภเกตน์ ศรีสวัสดิ์ (ศกม.ภาคเหนือ)  อย่างเป็นเอกฉันท์5-0คว้าเหรียญทอง

สำหรับ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เผยว่า พอใจรูปแบบการจัดการแข่งขันแบบนี้ตามนโยบายของศบค. ที่อนุญาตให้จัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมในสนามทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ เวลาการแข่งขัน ส่วนรายการชิงแชมป์ประเทศไทย นักมวยทุกคนชกได้ดีมีการพัฒนาทุกคน
ขณะที่รายการมวยสากลยุวชนและเยาวชน ชิงแชมป์ประเทศไทย จะมีขึ้นในวันที่6ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์ฝึกกีฬามวยแห่งชาติ มวกเหล็ก

"ตอนนี้สมาคมมีนักมวยยุวชน-เยาวชนราว50คน เป้าหมายในอนาคตอยากได้ราว100คน
น่าจะเพียงพอ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง พยายามสร้างนักมวยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นรากฐานที่ดีให้กับสมาคมฯ ส่วนสุดท้ายแล้วใครจะเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯก็จะสานต่อทำงานได้อย่างราบรื่น" ประมุขเสื้อกล้ามไทยกล่าว

ผลรุ่นอื่นๆมีดังนี้ รุ่น48กก.หญิง
จุฑามาศ รักสัตย์(กองทัพเรือ)ชนะจันทกานต์ มโนบาล(กองทัพบก)5-0

เหรียญทองแดง ได้แก่ สุปราณี โชตินอก(ศกม.ภาคกลาง),สรรพสิริ แช่มละออ(ศกม.ภาคเหนือ)

รุ่น51กก.หญิง เหรียญทองแดง ได้แก่ ทิพย์สัจจา ยอดวารี(สนง.ตำรวจแห่งชาติ),ณัฐชา ศิลปกิจ(กองทัพบก)

รุ่น54กก.หญิง ปรีดากมล ถิ่นทับไทย(สนง.ตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน อภิษฎา ทันท่าหวัง(กองทัพอากาศ)4-1

เหรียญทองแดง ได้แก่
สวรรยา ศรีสวัสดิ์(กองทัพเรือ),โสมรัศมี ไชยสุยะ(ศกม.ภาคกลาง)

รุ่น57กก.หญิง นภเกตุ ศรีสวัสดิ์(ศกม.ภาคเหนือ) แพ้คะแนน นิลาวัลย์ เตชะสืบ(กองทัพเรือ)0-5

เหรียญทองแดง ได้แก่
สุธาทิพย์ ทองตรีพันธ์(ส.กีฬาจ.ตรัง),พรชิตา สีหาบุราณ(กองทัพอากาศ)

รุ่น60กก.หญิง พรทิพย์ บัวป่า(สนง.ตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน ปณิดา แก้วแก่นคูณ(ศกม.ภาคเหนือ)3-2

เหรียญทองแดง ได้แก่ ศิริโสภา ศิริศักดิ์(กองทัพอากาศ), จิตติมา พรหมเสน(ศกม.ภาคกลาง)

รุ่น63กก.หญิง พัณพัชรา สมนึก(สนง.ตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน อนุสรา หินสูงเนิน(กองทัพเรือ)5-0คว้าเหรียญทอง

เหรียญทองแดง ได้แก่ จีระพักตร ชินทร์คำ(ศกม.ภาคกลาง),อุมาวดี คงสันเทียะ(กองทัพบก)

รุ่น69กก.หญิง เหรียญทองแดง ได้แก่ ธันย์ชนก ศักดิ์ศรี(กองทัพบก),จันทิดา สุขาเขิน(กองทัพเรือ)

รุ่น49กก. ณัฐพงษ์ ท้วมเจริญ(กองทัพเรือ) แพ้คะแนน สมัคร แซ่หาญ(กองทัพบก)1-4

เหรียญทองแดง ได้แก่
แสนชัย ห้องแก้ว(สนง.ตำรวจแห่งชาติ), ณัฐวุฒิ บัวใหญ่(ศกม.ภาคกลาง)

รุ่น52กก.วุฒิชัย ยุระชัย นักชกเหรียญเงินมวยชิงแชมป์โลก2021ที่เซอร์เบีย ต้อนเอาชนะ ขวัญชัย ห้องแก้ว(สนง.ตำรวจแห่งชาติ) 5-0

เหรียญทองแดง ได้แก่ วันเฉลิม แซ่หาญ(กองทัพเรือ),ทิชากร ศรีสกุล(ศกม.ภาคเหนือ)

รุ่น57กก.ธนบูลย์ โกศล(กองทัพเรือ) ชนะคะแนน ปฎิภาณ อุทัยดา(สนง.ตำรวจแห่งชาติ)5-0

เหรียญทองแดง ได้แก่ กฤษดา ทองขำ(กองทัพบก),วิสุทธิพงศ์ แหวนนิล(ศกม.ภาคอีสาน)

รุ่น60กก.ภานุวัฒน์ ชูจันอัด(ศกม.ภาคอีสาน) ชนะคะแนนพลวัฒ บุญเกิ่ง(กองทัพอากาศ)3-2

เหรียญทองแดง ได้แก่ ปฎิภาณ แท้สูงเนิน(สนง.ตำรวจแห่งชาติ), นันทชัย บุญถึง(ศกม.ภาคเหนือ)

รุ่น63กก. บรรจง สินศิริ (กองทัพบก) แพ้คะแนน สมชาย วงศ์สุวรรณ(กองทัพอากาศ)0-5

เหรียญทองแดง ได้แก่ จารุวัฒน์ ขุนเพชร(ศกม.ภาคเหนือ),ณัฐพล แสนกล้า(กองทัพเรือ)

รุ่น69กก. เหรียญทองแดง ได้แก่
ศักดิ์กิตติ ปัญญาอภิวงศ์(กองทัพเรือ), ศรันย์ ศรีอ่วมบู่ (กองทัพอากาศ)

รุ่น75กก.พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน(สนง.ตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน บวร กาลำดวน(กองทัพเรือ)5-0

เหรียญทองแดง ได้แก่ อภิสิทธิ์ ขันโคกเครือ(กองทัพอากาศ),กิตติศักดิ์ กลิ่นษร(กองทัพบก)