หน้าแรกแกลเลอรี่

"เจ็ตสกี" ชิงแชมป์ประเทศไทย เปิดฤดูกาลวันแรก แชมป์เก่ามีพลาดท่า

ไทยรัฐออนไลน์

30 ต.ค. 2564 18:30 น.

"เจ็ตสกีไทย" เปิดฤดูกาลสุดคึกคัก นักแข่งชั้นนำลงชิงชัยกันพร้อมหน้าพร้อมตา มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2021" ที่สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนก) จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งเกมบนผื่นน้ำลุ้นกันสนุกตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะรุ่นยักษ์ใหญ่ เจ็ตสกีนั่งอาชีพ จีพี ที่แชมป์เก่าพลาดตั้งแต่โมโตแรก

วันที่ 30 ต.ค. 64 ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021" เปิดฤดูกาลสนามแรกอย่างเป็นทางการ ที่สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนก) จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 30 ต.ค. โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ให้เกียรติร่วมรับชมถึงสนามการแข่งขัน

สนามนี้เป็นสนามที่บรรดานักเจ็ตสกีชั้นนำของไทยรอคอยการชิงชัยอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากผลกระทบของ โควิด-19 ทำให้ไม่ได้ลงสนามแข่งขันกันมาร่วม 6 เดือน จึงเป็นนักกีฬาสมัครลงการแข่งขันมากกว่าปกติ โดยมีจำนวนนักกีฬามากที่สุดในประวัติศาสตร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รวมทั้งมีนักแข่งระดับเยาวชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยหลายๆ คนใช้เวลาว่างไปกับการฝึกซ้อมอย่างหนัก

ด้านรุ่นยักษ์ใหญ่เรือนั่งอาชีพ จีพี (Pro Runabout GP) มี “พูล” เพิ่มพล ธีรพัฒนพาณิชย์ แชมป์เก่าลงป้องกันแชมป์กับบรรดานักแข่งระดับดีกรีแชมป์ที่ลงมาท้าชิงกันครบครันทำการแข่งขัน 4 โมโต และปรากฏว่าสนุกตั้งแต่โมโตแรกเมื่อเรือของ เพิ่มพล เสียต้องออกจากการแข่งขันไม่มีคะแนน และเป็น ธีระ เสร็จธุระ ที่เข้าอันดับ 1 คว้า 60 คะแนนเต็ม ตามมาด้วย เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง และ อรรถพล คุณสา

เข้าโมโต 2 อาการของ เพิ่มพล ยังไม่ดีขึ้นไม่จบการแข่งขันอีกโมโต เป็น อรรถพล พุ่งขึ้นนำในรอบแรก มี เลิศพงศ์ พยายามไล่จน อรรถพล อ่อนแรงอันดับตกรูด ทำให้ เลิศพงศ์ ได้อันดับ 1 โมโตนี้ ตามด้วย ธีระ และ ภาณุพันธ์ ดิษฐี รวม 2 โมโต เลิศพงศ์ กับ ธีระ 113 คะแนนเท่ากัน ภาณุพันธ์ อันดับ 3 มี 87 คะแนน ส่วน เพิ่มพล ยังไม่มีคะแนนจาก 2 โมโตแรก ก่อนไปลุ้นกันต่ออีก 2 โมโตในวันที่ 31 ต.ค.

อย่างไรก็ตาม เพิ่มพล มาแก้ตัวได้ในโมโตแรกของรุ่นเก่ง และรุ่นที่เป็นแชมป์ประเทศไทยอีกรุ่น อย่างเรือนั่งอาชีพ 1100 ซีซี ปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ (Pro Runabout 1100 Open) ทำการแข่งขัน 4 โมโตเช่นกัน โดยควบเจ็ตสกี 1,100 ซีซี คู่ใจเข้าที่ 1 ด้วยฟอร์มเดิม ตามด้วย สุภทัต ฟูตระกูล และ เชาวลิต เกื้อจรูญ

โมโต 2 สุภทัต สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเร่งออกนำ เพิ่มพล ในตำแหน่งอันดับ 1 ในรอบแรก ซึ่งแม้ เพิ่มพล จะพยายามไล่แต่ก็ไม่ทัน สุภทัต จึงเข้าที่ 1 ในโมโตนี้ ตามด้วย เพิ่มพล และ เชาวลิต ทำให้จบ 2 โมโตแรก สุภทัต กับ เพิ่มพล มี 113 คะแนนเท่ากัน และ เชาวลิต มาเป็นอันดับ 3 มี 96 คะแนน

รุ่นเรือนั่งอาชีพ สปอร์ต จีพี (Sport GP) ทำการแข่งขัน 4 โมโต สุภัค เสร็จธุระ ผู้ผูกขาดแชมป์ประเทศไทย และแชมป์โลกหลายสมัยยังไร้เทียมทานในรุ่นนี้ เข้าที่ 1 สบายๆ ในโมโตแรก มี ธีระ พี่ชายเป็นที่ 2 และ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ เข้าที่ 3 ก่อนที่โมโต 2 สุภัค นำตั้งแต่รอบแรกและเข้าที่ 1 อีกโมโต ทำให้จบ 2 โมโต สุภัค มีคะแนนนำ 120 คะแนนเต็ม อันดับ 2 ธีระ 106 คะแนน และอันดับ 3 ธภัทรวัฒน์ 96 คะแนน

ส่วนรุ่นสุดยอดของเรือยืน รุ่นเรือยืนอาชีพ โมดิฟายด์ (Pro Ski Modifiled) ทำการแข่งขัน 4 โมโต โมโตแรก โอเมิด สารี่ นักแข่งกัมพูชา เฉือนชนะ นันทวัฒน์ สิงห์อุไร นักแข่งทีมชาติไทยเข้าที่ 1 มี ณัฐกร ภูภัคดี เป็นอันดับ 3 แต่โมโต 2 เป็น ภูริภัทร ทองก้อน ขึ้นนำเข้าที่ 1 แบบม้วนเดียวจบ อันดับ 2 เป็น โอเมิด สารี่ และ อานนท์ หงษ์กลาง แชมป์เมื่อปีที่แล้ว แต่ โอเมิด ทำผิดกติกาข้ามทุ่นถูกปรับไปเป็นที่ 7 เมื่อรวมคะแนน 2 โมโต นันทวัฒน์ สิงห์อุไร มีคะแนนนำที่ 96 คะแนน ตามด้วย ภูริภัทร กับ โอเมิด 93 คะแนนเท่ากัน

การแข่งขันในสนามนี้ ยึดปฏิบัติตามนโยบายคำสั่งจากภาครัฐอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และประชาชนภายในพื้นที่จัดการแข่ งขัน โดยนักกีฬาทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด หรือมีหลักฐานแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 วิธี RT-PCR หรือ ATK จากโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อ ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง

นอกจากนี้ก่อนเข้าสนามแข่งขันนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องตรวจ ATK อีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันมั่นใจได้ว่าภายในสนามแข่งขันจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดเชื้ออย่างแน่นอน รวมถึงการจัดมาตรการ D-M-H-T-T-A เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การเว้นระยะห่าง (Social Distancing) การตรวจวัดไข้ ที่หากตรวจพบผู้ที่มีอุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะไม่อนุญาตให้เข้าบริเวณการจัดการแข่งขันโดยเด็ดขาด ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบต่อเจ้าของพื้นที่จัดการแข่งขัน