มีมาต่อเนื่อง

ปิดฉากไปเรียบร้อย มหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ซึ่งเหล่าฮีโร่นักกีฬาคนพิการไทยเรา โชว์ฟอร์มได้เยี่ยมยอดทีเดียว ภาพรวม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระนาบเดียวกับครั้งก่อนที่ทำไว้ และนับว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ประเมินกันไว้แต่ต้น 4-6 เหรียญทอง

จากนี้ไปก็ถึงเวลาของการฉลองกันตามสภาพในยุคโควิด ซึ่งก็ต้องรอผ่านกระบวนการกักตัวให้เรียบร้อย ส่วนเงินอัดฉีดไม่ต้องห่วง รัฐบาลเตรียมไว้พร้อมรอแจกอยู่แล้ว

ต่อเนื่องจากโอลิมปิกถึงพาราลิมปิก เชื่อว่าหลายท่านคงจะสัมผัสและรับรู้ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วว่าช่วงเวลาที่เรามีตัวแทนคือนักกีฬาไทยทุกคนไปร่วมแข่งขัน ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบในกีฬาเป็นปกติ หรือไม่ได้เป็นผู้ที่ดูหรือเล่นกีฬาเป็นนิจ ต่างก็ติดตามความเคลื่อนไหวของนักกีฬา แพ้ก็รู้สึกร่วม ให้กำลังใจกัน ชนะก็ร่วมยินดี ชื่นชม มีความสุขขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ

ยิ่งในภาวะที่ประเทศบอบช้ำและหดหู่ คุณค่าก็ยิ่งมากด้วยความรู้สึก เหมือนเป็นหยดแห่งความชุ่มฉ่ำที่ช่วยบรรเทาจิตใจให้แก่กันได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

นี่คือความสำคัญของ “กีฬา” โดยเฉพาะกีฬาในมิติของ “ทีมชาติ” ซึ่งนักกีฬาทั้งหลายพึงตระหนักและรับรู้ถึงความสำคัญของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไร เมื่อติดธงไตรรงค์แล้ว จงภาคภูมิและมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรา ซึ่งหมายถึงคนไทยทั้งประเทศจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน

และหลังจากนี้ก็ยังจะมีกีฬาเข้ามารับช่วงต่ออีกรายการ นั่นคือ ฟุตซอลชิงแชมป์โลก หรือ “ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ 2021” ซึ่งจะแข่งกันที่ประเทศลิทัวเนีย ระหว่างวันที่ 12 ก.ย. ถึง 3 ต.ค.นี้

ความยิ่งใหญ่ของรายการนี้ไม่ต้องอธิบายกันมาก มันก็คือฟุตบอลโลก ในภาคฟุตซอล รับรองว่าแฟนๆทั้งหลายรอเชียร์กันแน่นอน

การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 9 ซึ่งทีมไทยเรานั้นฝ่าด่านผ่านเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายมาได้ 6 ครั้งหลังสุด ตั้งแต่ที่กัวเตมาลา เมื่อปี 2000 เป็นต้นมา และ 2 ครั้งหลังสุด ทีมไทยเราก็ผ่านเข้าถึงรอบสอง หรือรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วย สะท้อนได้ชัดเจนถึงมาตรฐานและการพัฒนาที่เราทำไว้ ทั้งยังได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเองเมื่อปี 2012 ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าไทยเราเป็นที่ยอมรับในแวดวงฟุตซอลโลก

กับการแข่งขันครั้งนี้ทีมไทยเราประกาศชื่อ 16 ขุนพลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราอยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ โปรตุเกส, โมร็อกโก และหมู่เกาะโซโลมอน นัดแรกประเดิมสนามวันที่ 13 ก.ย. พบโปรตุเกส ถัดไป 16 ก.ย. เจอโมร็อกโก และส่งท้ายรอบแรก 19 ก.ย. พบหมู่เกาะโซโลมอน โดยทั้ง 3 นัดจะแข่งขันตามเวลาไทยตอนเที่ยงคืน

ค่อนข้างแน่ว่าจะมีการถ่ายทอดสดทางพีพีทีวี ช่อง 36 ที่ดำเนินการเรื่องลิขสิทธิ์อยู่ ส่วนจะมีช่องทางไหนบ้าง ก็รอการแถลงอย่างเป็นทางการของผู้เกี่ยวข้องกันอีกที เรียกว่าได้ดูได้เชียร์นักกีฬาไทยกันต่อเนื่อง

บ้านเมืองค่อยๆคลายล็อก เราๆท่านๆก็มีโอกาสผ่อนคลาย ใช้เวลานี้ฟื้นฟูพลังในจิตใจกันหน่อย พี่น้องเราออกศึกกันอีกแล้ว...

“เบี้ยหงาย”