บี บางปะกง
เบิกม่านเปิดฉากอย่างเป็นทางการกันเสียที
สำหรับมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020+1” ที่เลื่อนยาวข้ามปี มาระเบิดการชิงชัยในปีนี้ แบบ New Normal เพื่อให้กระทบวิกฤติโควิด-19 ที่ยังคงระบาด (หนัก) ไม่เลิกราอยู่ ณ เวลานี้ ให้น้อยที่สุด
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจ้าภาพ ญี่ปุ่น จะทำได้สักแค่ไหน?
จากวันนี้ถึงเดือนหน้า 8 ส.ค. ชีพจรกีฬาของทั้งโลก ก็จะไปหยุดอยู่ที่แดนซามูไร อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
โดยแฟนๆ กีฬาบ้านเราสามารถติดตามความเคลื่อนของศึกโอลิมปิกครั้งนี้ แบบละเอียดยิบได้ทาง “ไทยรัฐสปอร์ต” ของเรา ที่จะมาอัปเดตเรื่องราวข่าวสาร ให้ได้รับทราบกันประดุจนั่งดูอยู่ขอบสนาม
และขณะที่ โตเกียวเกมส์ เริ่มชิงชัยกัน ให้พวกเราได้รอลุ้นผลงานของทัพนักกีฬาไทย
อีกมุมหนึ่งของโลก ก็มีคนไทยที่กำลังข้ามทวีปไปสร้างชื่อให้กับประเทศ ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์คลาส อย่างเต็มภาคภูมิ
เรียกว่า เป็นอีเวนต์ที่กำลังโด่งดังระดับอินเตอร์ มีหลายชาติในยุโรปแย่งกันอยากจัดรายการนี้
และผลสรุปที่ออกมาปีนี้ คือไปลงตัวจัดกันที่ “โปแลนด์”
“WGP#1 WaterJet World Series 2021” หรือ เจ็ตสกีเวิลด์ซีรีส์ 2021 ในปัจจุบันคือ “ทัวร์นาเมนต์กีฬาเจ็ตสกี เก็บคะแนนชิงแชมป์โลก” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งใช้กติกาของสมาคมเจ็ตสกีโลก IJSBA, สหรัฐอเมริกา
โดยทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน สนามที่ 1 บนทวีปยุโรป ได้เริ่มจัดกันแล้วในสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2564 ที่ทะเลเมืองอูสโทรวาสคิ ประเทศโปแลนด์
ส่วนที่น่าทึ่ง ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่รู้ ก็คือนี่เป็นแบรนด์ทัวร์นาเมนต์กีฬาโลกของ “คนไทย”
แม้ว่าผมจะติดตามความก้าวหน้า ในการบริหารจัดการ และวิสัยทัศน์การพัฒนากีฬาเจ็ตสกีไทยมาโดยตลอด แต่ก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่า คิดไม่ถึงจริงๆ ที่ทัวร์นาเมนต์กีฬาของไทย จะพัฒนาไปได้ไกลถึงขนาดนี้
ทำไมยุโรปถึงแย่งกันเป็นเจ้าภาพหลายประเทศ??? ทั้งเบลเยียม, ฝรั่งเศส, สเปน, อังกฤษ, โปรตุเกส ฯลฯ
ใช่ครับ! เพราะนี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ขึ้นชั้น “เวิลด์คลาส คอนเทนต์” ไปแล้ว
ทีมทั่วโลกอยากมาร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ การจัดแต่ละครั้งเฉพาะทีมนักกีฬากว่า 30 ชาติ มากกว่า 2,000-3,000 คน เดินทางไปแข่ง สร้างเศรษฐกิจรายได้ให้เมืองที่จัดการแข่งขัน แถมยังได้ประชาสัมพันธ์บน EUROSPORT1 ช่องกีฬาเบอร์ 1 ของโลกสู่ 155 ล้านครัวเรือน
แต่สิ่งที่จัดว่าเด็ดที่สุด ในฐานะที่ “คนไทยเป็นเจ้าของทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก” นี้ เมื่อได้สร้างประโยชน์ให้กับวงการกีฬาโลกเติบโตแล้ว ก็เน้นนำประโยชน์มาสร้างให้ประเทศไทยบ้าง
โดยการกำหนดกลยุทธ์ ให้แมตช์ชิงชนะเลิศต้องมาจัดแข่งที่ประเทศไทย
ดังนั้น ทีมแข่งจากทั่วโลกก็ต้องตามเข้ามาชิงแชมป์ จากที่ไปทั้ง 2 ทวีปหลักของโลกแล้ว แฟนกีฬา แฟนคลับ ต้องตามเข้ามาเชียร์ เพราะมันคือบทสรุปของปี จึงต้องมาที่ประเทศไทยเท่านั้น!!
รู้หรือไม่ว่า กีฬาเจ็ตสกีกำลังวางเป้าหมายสร้างเป็น “WORLD HUB” เพื่อยกระดับเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกีฬาเจ็ตสกีของโลก
ไม่ใช่แค่ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่จะต่อยอดสร้างเวทีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของโลก และเป็นเวทีเจรจาธุรกิจ รวมกับการสัมมนาของคนในอุตสาหกรรมโลก เพราะทุกคนอยากมาดูแข่งและต้องมากันอยู่แล้ว
โดยมีเป้าหมาย ที่จะสร้างเม็ดเงินเศรษฐกิจและท่องเที่ยวให้ชาติเติบโตระดับ 1,000 ล้านบาทต่อปี
ผมขึ้นหัวคอลัมน์ ‘Sport Insider’ วันนี้ว่า “เพชรเม็ดงาม สู่เวทีกีฬาโลก” ไม่ผิดหรอกครับ!
เจ็ตสกีพัฒนาตัวเองมาได้ยอดเยี่ยม แต่วิสัยทัศน์เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ กับ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี แม่ทัพแห่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จับกีฬาอาชีพโครงการนี้ มาเซ็น MOU เจียระไนสู่ตลาดกีฬาโลก
นับเป็นผลงานแปลกใหม่ ของวงการพัฒนากีฬาไทยเลยทีเดียว ทั้งได้ประโยชน์ชาติมหาศาล ด้านเม็ดเงินทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ได้การนำร่องงานกีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญา
จริงๆ แล้ว นี่คือเรื่องสำคัญที่น่าภาคภูมิใจมาก แต่กลับมีคนรู้เรื่องจริงๆ น้อย ทั้งที่เราได้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยบนสื่อดังโลก สร้างชื่อเสียงกีฬาแบบผู้นำกีฬาโลกชนิดแรก และสร้างการเติบโตยั่งยืน
นี่คือหนึ่งในโครงการรูปแบบใหม่.. ที่กีฬาไทยเข้มแข็ง ‘สู่เวทีโลก’ อย่างแท้จริงครับ!!!
- บี บางปะกง -