เป้าที่เป็นจริง

ทะลุ 1 พันคนไปแล้วเมื่อวาน สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อวันของประเทศไทย ซึ่งออกมา 1,335 คน นับเป็นครั้งแรกที่เกินพัน และไม่รู้จะมีการทำลายสถิติกันอีกหรือไม่ และรวมถึงจะทำลายไปอีกกี่ครั้ง ก็ยังไม่มีใครตอบได้

ขณะที่อาวุธที่จะสู้ซึ่งไม่ใช่การดูแลกันตามธรรมชาติของตัวเองก็คือวัคซีน ฝ่ายรัฐหัวหอก ผู้เป็นความหวังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยอ้างอิงเอาตัวเลขของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ก.มหาดไทย ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อ 31 ธ.ค.2563มีทั้งหมด 65,228,120 คน และเริ่มฉีดกันมาตั้งแต่เดือน มี.ค.จนถึงปัจจุบัน

โดยมีประกาศยอดการฉีดสะสมเมื่อ 14เม.ย. ฉีดกันไปรวม 579,305 โดส และเฉพาะวันการฉีดเพิ่มขึ้นตามที่เปิดตัวเลขออกมา เข็มแรก 529 คน เข็ม 2 จำนวน 244 คน

ว่าไปแล้วเรื่องวัคซีน การฉีด รวมถึงการระบาดจะรอบไหนๆ เป็นเรื่องที่พูดกันมานานหลายเดือนหรือเป็นปีก็ว่าได้ มีการตั้งประเด็น ถกกันมามากมาย จนกลายมาเป็นจริงในปัจจุบัน ก็ทำได้อย่างที่เป็นอยู่

ภาครัฐเองก็ยืนยันว่าภาพรวมถือว่าเป็นการฉีดได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้!

ลองพิจารณากันเอาเองว่าควรจะพอใจ ไม่พอใจ หรือรู้สึกกันอย่างไร!!!

แน่นอน เมื่อบรรยากาศกลับมาเป็นเช่นนี้และ กลับมาในลักษณะที่รุนแรงกว่า น่าห่วง น่ากังวลมากกว่าเก่า อะไรที่เตรียมไว้ อะไรที่คาดไว้ อะไรที่ตั้งเป้าไว้ ไม่ว่าเรื่องอะไร มันก็ไม่ใช่แล้ว

รวมถึงแวดวงกีฬาเรา ทั้งในมุมของกิจกรรมภายในประเทศ และเกมการแข่งขันที่จะต้องไปร่วมแข่งขันนอกประเทศ ซึ่งต้องมองในมุมเค้าและมุมเรา

โดยเฉพาะเมื่อสภาพของเรา ไม่ได้เป็นประเทศที่ควบคุม ดูแล บริหารจัดการกับเรื่องโควิด-19 ได้ดี เหมือนที่เคยคุย เคยเคลม และภาคภูมิใจ ในการระบาดครั้งก่อนๆอีกแล้ว

ซึ่งตัวเลข สถิติต่างๆที่ออกมานั้น เป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดี มากกว่าคำพูดที่เอ่ยอ้างเป็นไหนๆ

ไม่ว่าเราจะไปหรือเค้าจะมา ล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น

แผนงานเดิมที่สมาคมกีฬาต่างๆเตรียมไว้มากมาย รวมถึงบิ๊กอีเวนต์ต่างๆ ใกล้สุดก็กอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 เดือนหน้า ไกลหน่อยก็ โมโตจีพี เดือน ต.ค. ล้วนเป็นเรื่องที่น่าห่วงตอนนี้ก็มีบางรายการขยับปรับตัว เริ่มประกาศเลื่อน หรือปรับวิธีปิดสนามแข่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ก็ยังไม่รู้ว่าจะหนักหนาสาหัสไปขนาดไหน

นี่ยังไม่รวมถึงภารกิจของนักกีฬาไทยในเกมต่างๆ อาทิ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก หรือกีฬาโอลิมปิกโตเกียว ด้วยสถานการณ์อย่างนี้ อย่างไรเสียก็กระทบแน่ทั้งในด้านจำนวนและคุณภาพ

ไม่ได้ยกธงขาว แต่ก็ต้องยอมรับความจริง และเข้าใจในสภาพ เป้าหมายแต่ละเกม แต่ละรายการ ที่เคยฝันเคยประกาศกัน คงใช้ไม่ได้แล้ว ณ เวลานี้ อาจทำได้เพียงการฝ่าฟัน แล้วทำให้ดีที่สุด เท่านั้นแหละ...

“เบี้ยหงาย”