บี บางปะกง
ได้ลุ้นถึงเฮือกสุดท้ายจริงๆ สำหรับแข้ง “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ฮึดหนีตายด้วยการเอาชนะสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 2-1 จากการซัลโวเบิ้ลของหัวหอก แซมบ้า แฮริสัน ไคออน ที่มาจากการแอสซิสต์ของ
เลอันโดร อัสซัมเซา คู่หูเพื่อนร่วมชาติทั้ง 2 ประตู
กลับมาสะกดคำว่า “ชนะ” คู่ต่อสู้เป็นอีกครั้ง หลังจาก 7 นัดก่อนหน้านี้ เก็บได้แค่แต้มเดียวจากการเสมอทีมแชมป์ป้ายแดง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ทำให้พวกเขายังมีโอกาสรอดพ้นการตกชั้นได้ในเกมสุดท้ายของศึกไทยลีก วันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.นี้
ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตารางที่มีแต้มนำนักเตะเมืองขุนแผนอยู่แค่แต้มเดียวเท่านั้น
โดยสุพรรณบุรี อันดับ 14 ขณะนี้มี 27 แต้ม จากผลงานแข่ง 29 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 18 ได้ 32 เสีย 47 ประตู ผลต่างประตูได้เสีย ลบ 15 ลูก
ขณะที่ทีม “ค้างคาวไฟ” มี 28 แต้ม จากการแข่ง 29 นัด ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 17 ได้ 40 เสีย 56 ประตู ผลต่างประตูได้เสีย ลบ 16 ประตู
ซึ่งเงื่อนไขเดียวที่ทีมช้างศึกยุทธหัตถี จะได้อยู่ต่อบนลีกสูงสุดก็คือต้อง “ชนะ” ให้ได้สถานเดียว
ถ้าแพ้หรือเสมอนั่นหมายถึงต้อง “กลับ บ้านเก่า” ไปเริ่มต้นใหม่ในไทยลีก 2 ทันที!!
โดยเลกแรกที่ทั้งคู่เคยเจอกันมา...ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ปีที่แล้วโน่น
ในเกมประเดิมสนามศึกไทยลีก 2020 ที่ สุโขทัย เอฟซี ของ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ เปิดสนามทุ่งทะเลหลวง ต้อนรับสุพรรณบุรี เอฟซี ที่มีกุนซือ อเดบาโย นำทัพ
แมตช์ดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของแข้งค้างคาวเจ้าถิ่น ที่เฉือนชนะผู้มาเยือนด้วยสกอร์ 1-0
โดยได้ประตูชัยตั้งแต่ต้นเกมจากดาวยิงโมฮอว์ก เอวานโดร เปาลิสตา ที่ยกเลิกสัญญากับทีมไปตั้งแต่พักยาวหลบโควิดรอบแรก เมื่อปีที่แล้ว
ล่วงไปปีกว่า บอลไทยลีกผ่านฤดูกาลที่แสนยืดเยื้อยาวนานมาได้อย่างทุลักทุเล
ทั้งสองทีมจะต้องมาเจอกันอีกครั้งในสภาพสะบักสะบอม เจียนไปเจียนอยู่ด้วยกันทั้งคู่
ซึ่งภาพรวมของทีมมีการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อนไปพอสมควร
แต่ที่ยังเหมือนเดิม...ไม่ได้หายไปไหน คือกุนซือทั้งสองทีม ที่ยังอยู่ทน อยู่นาน บนเก้าอี้เฮดโค้ชอย่างเหลือเชื่อ
ทั้งที่ผลงานที่ออกมาก็อย่างที่เห็นกัน ว่าต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้นกันถึงหยดสุดท้าย
โดยเฉพาะ “อเดบาโย” นี่ถือว่าเหนียวจริงๆ ขนาดปี 2019 ทำสุพรรณบุรีจบอันดับ 14 ตกชั้นไปแล้ว
แต่โชคยังช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยในไทยลีกมาจนถึงทุกวันนี้
เพราะพีทีที ระยอง ตัดสินใจประกาศยุบสโมสรไปอย่างกะทันหัน
มาจนถึงบัดนาว...สภาพของสุพรรณบุรีก็ยังคล้ายคลึงกับคราวที่แล้ว
ต่างกันแค่เพียง...ยังมีโอกาสลุ้นอีกเฮือก ซึ่งเป็นเฮือกสุดท้ายจริงๆในเกมวันอาทิตย์นี้
ซึ่งในส่วนตัวแล้วขอเอาใจช่วยทั้ง สุพรรณบุรี กับ สุโขทัย อย่างเต็มที่นะครับ
ไม่ได้เห็นใจผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้บริหารทีมของทั้ง 2 สโมสรสักเท่าไหร่หรอก
เพราะทราบมาว่าตอนหลังงานท่านรัดตัวในตำแหน่งรัฐมนตรี...จนไม่ค่อยมีเวลามาโฟกัสกับฟุตบอลเหมือนแต่ก่อน
แต่ที่เสียดายคือ กองเชียร์ท้องถิ่นของทั้ง 2 สโมสร มากกว่าที่ซีซันหน้าจะต้องขาดสีสันไปแน่ๆ ไม่ทีมใดก็ทีมหนึ่ง
บอกตามตรง...เป็นทีมไหนก็ใจหายพอๆกันเลย!!!
บี บางปะกง