หน้าแรกแกลเลอรี่

คัดอย่างไร

เบี้ยหงาย

18 มี.ค. 2564 05:01 น.

ดูเชิงดูแรงลมกันจนนาทีสุดท้าย ก็ว่าได้ จบวันพุธบรรดา ผอ.ฝ่าย ผอ. สำนัก ระดับ 9 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังไม่มีใครยื่นสมัคร แสดงความประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกขึ้น เป็นรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กับรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ กันเลย ทั้งๆที่จะปิดรับกันในวันศุกร์ที่ 19 มี.ค.

ว่ากันในรายละเอียดกันก่อน ความแตกต่างใน 2 ตำแหน่งดังกล่าว ต้องมีการยื่นเอกสารแสดงวิสัยทัศน์ประกอบตำแหน่งนั้นๆด้วย

หลังสมัครแล้วก็จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ในวันที่ 23 มี.ค. ก่อนจะมีการทดสอบความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษจากสถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ รวมถึงการสัมภาษณ์คนละไม่เกิน 45 นาที ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มี.ค. ใครไม่มาสัมภาษณ์ถือว่าสละสิทธิ์

องค์ประกอบในการพิจารณา นอกจากความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษแล้ว ยังดูจากวิสัยทัศน์ ความคิดริเริ่ม, ประสบการณ์และผลงานมีความซื่อสัตย์สุจริต ในการปฏิบัติหน้าที่, การสื่อสาร รวมถึงบุคลิกภาพ มนุษยสัมพันธ์และภาวะผู้นำ

นี่คือแนวทางที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการพิจารณาสรรหาฯที่มี พล.อ.อมรฤทธิ์ แพทย์เจริญ เป็นประธาน

ส่วนของจริงที่มีการคัดเลือกกันออกมานั้น จะตรงตามองค์ประกอบที่วางไว้แบบเป๊ะๆหรือไม่ หรือจะมองกันในภาพรวม ก็สุดแล้วแต่ ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี เท่านั้นที่จะเป็นผู้พิจารณาและนำเสนอคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด กกท. พร้อมความเห็นให้มีมติ

จะตรงใจไม่ตรงใจใคร หรือใครจะเห็นว่าเหมาะไม่เหมาะ ต่อให้คณะกรรมการเลือกขึ้นมาให้ผู้ว่าการ นำเสนอบอร์ด คนที่ต้องรับผิดชอบก็ไม่พ้นผู้ว่าการ กกท.

จากนี้ก็คงต้องรอดูว่าในที่สุดจะสมัครกันตำแหน่งละกี่คน ซึ่งเงื่อนไขหนึ่งของประกาศที่ออกมา หากมีผู้สมัครน้อยเกินไป หรือไม่มีผู้ใดสมควรได้รับการพิจารณา คณะกรรมการมีสิทธิ์จะขยายเวลา หรือยกเลิกไปแล้วรับสมัครกันใหม่ก็ได้

ประเด็นหนึ่งที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข แต่เป็นประเด็นแวดล้อมที่มีความสำคัญพอดู นั่นคือการสรรหารองผู้ว่าการ กกท. ครั้งนี้ 2 ตำแหน่งอย่างที่ประกาศกัน หลังจากนี้อีกไม่กี่เดือน สิ้นเดือน ก.ย.2564 จะมี 2 รองฯปัจจุบัน ราเชลล์ ได้ผลธัญญา และ พ.ท.รุจ แสงอุดม เกษียณอายุราชการ ทำให้ต้องเลือกกันอีก 2 คนในอีกไม่นาน

นั่นทำให้มีโอกาสของการพิจารณาที่มากกว่า ความเหมาะสม ด้วยอาจจะมีมุมมองด้านเงื่อนไขเวลาเข้ามาเพิ่มเติมในลักษณะให้คนนั้นคนนี้ก่อน แล้วครั้งหน้าถึงจะเป็นคนโน้น จนความเหมาะสมจริงๆ หรือความไม่เหมาะสมจริงๆของบางคน อาจจะถูกมองข้ามไป!

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกรรมเก่าซึ่งแตกต่างกันไป อาจจะมาหลอนหลอกได้ในช่วงเวลาเช่นนี้ แล้วจะมีผลต่อการพิจารณาเลือกสรรกันหรือไม่

จงเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่มีกับตำแหน่งนั้นๆ เอาคนไปทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ได้เอาคนเพื่อไม่ให้โดนด่า หรือโดนด่าน้อยที่สุด

ด้วยผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี เป็นผู้รับผิดชอบคนเดียวเท่านั้น ใครได้เรื่อง ใครไม่ได้เรื่อง อยู่มานานแล้วจะไม่รู้เลยหรือไง...

“เบี้ยหงาย”