ได้มากมาย

ปิดฉากลงไปแล้วการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ยักษ์ของโลก 3 รายการ บนแผ่นดินไทยในช่วง “โควิด-19” ยังแสดงอิทธิฤทธิ์ป่วนโลกในยามนี้ ส่งท้ายด้วยศึกใหญ่สุด แบดมินตันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ 2020 ซึ่งได้แชมป์กันไปเมื่อวันวาน

ในแง่ของเกมการแข่งขันหรือผลงานนักกีฬาไทย ก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งคงได้เชียร์ได้ลุ้นกันสนุกสนาน รับรู้กันเต็มอกอยู่แล้ว

แต่ที่เหนือกว่านั้น ก็คือบรรยากาศ ภาพลักษณ์ รูปแบบ และสัญญาณของมิติในความเป็น “ประเทศไทย” ที่ส่งออกไปทั่วโลก

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ในช่วงโควิด-19 ระบาดรอบแรกในเมืองไทย และค่อยๆซาลง พลันที่ปรากฏข่าวว่าแบดมินตัน 3 รายการนี้ จะจัดในเมืองไทยแน่ๆ เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนเป็นกังวล มีความแคลงใจ แม้กระทั่งไม่เห็นด้วยก็คงมีไม่น้อย และยิ่งมาช่วงปลายปีที่แล้ว ไวรัสร้ายกลับมาสร้างปัญหาที่หนักขึ้นในรอบใหม่ อันเป็นช่วงก่อนที่การแข่งขันจะมีขึ้นไม่นานนัก

ความวิตก ความไม่เห็นด้วย ก็ยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ และแม้กระทั่งการแข่งขันเริ่มขึ้นก็ยังมีการตรวจพบการติดเชื้อ ความหวั่นไหวก็ยิ่งอยู่ในภาวะที่สูงขึ้น ทุกสายตาจึงจับจ้องอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

ขณะที่ฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นก็ยังยืนหยัดอย่างต่อเนื่องด้วยความมั่นคง

การยืนหยัดที่ว่านี้ ไม่ได้มาจากศักดิ์ศรี หน้าตา ความดื้อรั้น การเอาชนะ ยอมไม่ได้ หรือแค่เสี่ยงแบบวัดดวง แต่มันมาจากเหตุและผล ในรูปแบบของแผนงานการบริหารจัดการที่ผ่านการสังเคราะห์กันมาอย่างดีแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่ารอบคอบ รัดกุม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้ระบบ “บับเบิล” ที่เรียกกัน

ซึ่งก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพจริง โดยที่ตอกย้ำถึงข้อพิสูจน์นี้ก็คือ ทั้งไอโอซี หรือ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยประธาน โธมัส บาค ก็แสดงความชื่นชมและขอนำเอาระบบ “บับเบิล” ไปเป็นต้นแบบของการจัดแข่งกีฬาในช่วงวิกฤตินี้ รวมทั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติก็จะนำไปใช้ในการจัดวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกเช่นกัน

ยังไม่รวมถึงบรรดานักกีฬาแบดมินตันนานาประเทศที่มาร่วมการแข่งขันและสะท้อนภาพออกไปผ่านทางโซเชียลมีเดียของตนในแง่มุมที่เป็นบวก รวมถึงสื่อกีฬาทั่วโลกก็เผยแพร่ข่าวสารออกไปอย่างต่อเนื่องนานนับเดือน

นับเป็นความกล้าหาญของรัฐบาลไทย และ ศบค. ภายใต้การดำเนินการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กกท. สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ รวมถึงการสนับสนุนของภาคของเครือข่ายสาธารณสุขไทย ในทุกระดับ ที่ต้องประสานความร่วมมือกันจนทำให้การแข่งขันมีขึ้น และจบลงด้วยความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม

นี่คือประสิทธิภาพของประเทศไทยที่ส่งสัญญาณออกไป

ต้องยกให้เป็นเครดิตของ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ และไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทย ที่มีส่วนสำคัญยิ่ง จริงอยู่ตัวคุณหญิงคนเดียวคงไม่มีทางจัดได้เลย ต้องอาศัยความร่วมมือในทุกภาคส่วนและทุกระดับชั้น จึงจะขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นได้

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก็ด้วยความเป็น “คุณหญิงปัทมา” นี่แหละ จึงสามารถเชื่อมประสาน เกี่ยวโยงทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศเข้าหากัน ถ้าไม่ใช่คุณหญิงท่านนี้ คงไม่มีทางจัดได้!!!

เมืองไทยได้ประโยชน์มากมาย เราได้แสดงตัวตน ยืนหยัดและต่อสู้ แม้เรายังเอาชนะโควิด-19 ไม่ได้ แต่เราก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่า มนุษย์มีสติ มีปัญญา ใช้เหตุผลและใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งนี้มันจะเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญเช่นกัน ไม่ได้มีแค่วัคซีนเท่านั้น...

“เบี้ยหงาย”