หน้าแรกแกลเลอรี่

“ไทย” ล่าอาณานิคมกีฬา

แม่ลูกจันทร์

30 ม.ค. 2564 05:01 น.

ในที่สุด! ก็มาถึงวันนี้ได้จริงๆ ผมขอชื่นชมและยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอความน่าภาคภูมิใจครั้งนี้ ที่กีฬาเจ็ตสกีอาชีพไทย พัฒนาขึ้นจากลูกกระจ๊อกในวงการกีฬาโลก

กลายเป็น “แม่ข่ายกีฬาโลก” เขาทำสิ่งนี้สำเร็จได้อย่างไร? วันนี้ผมจะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังครับ

License แปลว่า “ใบอนุญาต” ส่วน Licensee นั้นแปลว่า “ผู้รับใบอนุญาต” ส่วนมากเรื่องนี้เราจะคุ้นๆกันกับเรื่องการค้า การเปิดร้านแฟรนไชส์ดังๆทั่วไป เช่น ใครอยากเปิดร้านสะดวกซื้อสักแห่ง หรือเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหาร ขนม ฯลฯ ก็ต้องเอาตังค์ไปจ่ายเพื่อขอรับอนุญาต เปิดร้านสาขาต่างๆ

กับวงการกีฬา ส่วนใหญ่เจ้าของ License ก็มักจะเป็นฝรั่ง ชาวต่างชาติแทบทั้งหมดถ้าเป็นกีฬาสมัครเล่นก็มาในรูปแบบของสมาคมกีฬา

แต่ถ้าเป็น กีฬาอาชีพ ผมจะยกตัวอย่าง เช่น มวย K-1 ที่สร้างชื่อเสียงกระหึ่มโลก และเรามีนักกีฬาโด่งดังเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้น เช่น บัวขาว เป็นต้น

ตามข้อมูลนั้น K-1 ชาติไหนที่อยากจะเข้าเครือข่ายของเขาต้องไปซื้อไลเซนส์จากเขา การซื้อไลเซนส์แบ่งเป็นเรื่องๆไป ใครอยากเป็นเจ้าของยิม ใครอยากเป็นผู้จัด ใครอยากเป็นโค้ช ฯลฯ

แต่ถ้ามองด้านกีฬาอาชีพ การค้าและธุรกิจแล้ว มันคือยุคที่เปลี่ยนแปลงอดีตมาสู่ปัจจุบัน เคยมีบทความในไทยรัฐ กล่าวไว้ว่า “สมัยนี้การล่าอาณานิคม ไม่ได้เอาปืนใหญ่ใส่เรือรบมายิงกันตูมๆแล้ว แต่เปลี่ยนมาเป็นการล่าอาณานิคมทางการค้า และทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ไทยส่งออกน้ำองุ่นไปขายลิตรละไม่ถึงยี่สิบบาท แต่เขาส่งมาเป็นไวน์ขวดละพัน หมื่น แสน เข้ามาขาย”

“กีฬาเจ็ตสกีอาชีพ” เป็นตัวอย่างหนึ่งที่

คนไทยสามารถ พัฒนา License สำเร็จ เป็นก้าวสำคัญที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องการพลิกบทบาทความแข็งแกร่ง สร้างชื่อเสียงวงการกีฬาชาติไทยยั่งยืนระดับโลก!!

ตอนนี้สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศญี่ปุ่นและผู้จัดเจ็ตสกีอาชีพรายใหม่ของญี่ปุ่น ต่างทำหนังสือเข้ามาเพื่อเสนอตัวแย่งสิทธิ์กัน ชนิดที่องค์กรไทยต้องกินยาแก้ปวดหัว!! ในด้าน “การได้รับใบอนุญาตเป็นผู้คัดเลือกนักเจ็ตสกีทีมชาติญี่ปุ่น เพื่อมาแข่งทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีเวิลด์คัพ ที่ประเทศไทย”

คนญี่ปุ่นนั้น ลึกซึ้ง จริงจัง ถ่องแท้ระดับโลก ไม่ใช่ธรรมดา ใครๆก็ทราบดี

ดังนั้น ความสำเร็จของวงการเจ็ตสกีอาชีพไทย จึงนับว่าเป็นพลานุภาพพลิกโลกจริงๆ และสิ่งนี้กำลังเริ่มกระจายตัวไปทั่วโลก ยิ่งกว่ามาถูกทาง!!

ขอชื่นชมวิสัยทัศน์บริหารงานกีฬาของ “เสี่ยเดรค” ปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์ ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าคนไทยไม่สนับสนุนงานพัฒนากีฬา ด้านลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ต่อไปชาติเพื่อนบ้านคงมาขายลิขสิทธิ์กีฬาให้เราด้วย ขณะที่เราไม่พร้อมเข้าสู่เวทีโลก แล้วอนาคตลูกหลานไทยจะเป็นอย่างไร?

ดีใจเหลือเกินที่แนวคิดนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย “บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. รับฟังและกำลังพิจารณาคุณค่าโดยแท้จริง!!!

บี บางปะกง