ไทยรัฐฉบับพิมพ์
กรมพลศึกษาเป็นอีกหน่วยงานด้านกีฬา ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีภารกิจดำเนินการด้านการพลศึกษา สุขภาพ การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และการพัฒนาบุคลากรสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยหน้าที่สำคัญ คือการดำเนินการด้านกีฬาขั้นพื้นฐานและกีฬามวลชน
ทั้งนี้ ภายหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ รับตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา คนที่ 30 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา
อธิบดีฯนิวัตน์ได้แถลงนโยบายการทำงาน เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2563 ระบุว่า กรมพลศึกษายุคใหม่ จะต้องเป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญและมีศักยภาพในการดำเนินงานด้านการพลศึกษา
พร้อมวางรากฐานการกีฬาของชาติและองค์ความรู้ในทุกมิติตามยุทธศาสตร์ชาติที่ให้ความสำคัญกับการกีฬาและนันทนาการ
จากแนวคิดของ ศ.นพ.วิจิตร บุณยโหตระ ที่กล่าวว่า “หมอทำหน้าที่รักษา พลศึกษาทำหน้าที่ป้องกัน”
กรมพลศึกษาจึงมีหน้าที่ส่งเสริมให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสุขจากการออกกำลังกาย เล่นกีฬา ร่วมกิจกรรมนันทนาการจนเป็นวิถีชีวิต
และล่าสุดในงานวันคล้ายวันสถาปนา กรมพลศึกษา 87 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2563 ดร.นิวัตน์ได้ย้ำอีกครั้งว่า เรามีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทยหันมาออกกำลังกายเล่นกีฬาทำกิจกรรมนันทนาการ
โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนาสุขภาพร่างกายของตนเอง
ปีนี้เราจะเน้นไปที่โครงการอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกาย (อสก.) และโครงการนำร่อง 1 ตำบล 1 ชนิดกีฬา เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงกีฬาได้ง่ายที่สุด
นอกจากนั้น กรมพลศึกษายังจะพัฒนานักกีฬา ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทุกสมาคม และยังจะมีการร่วมมือทางด้านกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬากับหน่วยงานต่างๆ
ขณะที่ ร้อยเอกหญิง ปวีณา ทองสุก สุดยอดนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2004 ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มกีฬามวลชน กรมพลศึกษา ในฐานะโฆษกกรมพลศึกษา กล่าวเสริมว่า โครงการ อสก. กรมพลศึกษา เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560
วางแผนที่จะให้ อสก. 1 คน ประจำ 1 หมู่บ้าน ซึ่งในประเทศไทยมีหมู่บ้านทั้งหมด 75,086 แห่ง ถึงเวลานี้ กรมพลศึกษาดำเนินการไปได้แล้วประมาณ 10,000 หมู่บ้าน
และยังมีแผนที่จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข อบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศให้ช่วยงาน มาเป็น อสก. เพิ่มเติม
เพื่อเชิญชวนประชาชนมาออกกำลังกาย เล่นกีฬา สร้างเครือข่ายกิจกรรมนันทนาการร่วมกัน
ขณะที่โครงการ 1 ตำบล 1 ชนิดกีฬาเป็นโครงการนำร่องของกรมพลศึกษา เริ่มในปีนี้เป็นปีแรก ต้องการจัดสรรอุปกรณ์กีฬาไปยังตำบลต่างๆทั่วประเทศ ที่มีมากกว่า 7,000 ตำบล
เวลานี้อยู่ระหว่างดำเนินการที่จะจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา ที่แต่ละตำบลต้องการให้กับ 878 ตำบลแรก
คาดว่าอุปกรณ์กีฬาดังกล่าว จะจัดส่งให้ตำบลต่างๆ เพื่อใช้ในการออกกำลังกายได้ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนตำบลที่เหลือกรมพลศึกษาจะดำเนินการตามลำดับต่อไป
โดยหวังว่าการสนับสนุนในด้านกีฬาขั้นพื้นฐาน และกีฬามวลชน
จะช่วยปูพื้นฐานในระดับท้องถิ่นให้แข็งแรง อันเป็นการเตรียมพร้อมให้กับเยาวชนทั่วประเทศ ได้มีทักษะทางการกีฬา บ่มเพาะประสบการณ์
ก่อนก้าวไปเป็นทีมชาติในอนาคตต่อไป
ทั้งหมดนี้เป็นเนื้องานที่อธิบดีฯนิวัตน์ในวัย 58 ปี บอกไว้ในโอกาสกรมพลศึกษาก้าวสู่ปีที่ 88 ว่าจะมุ่งมั่น พร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่
หวังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยประเทศให้ประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุข ป้องกันในด่านแรกไว้ก่อน
ด้วยการส่งเสริมการออกกำลังกาย เล่นกีฬา กันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ทุกคนสุขภาพดี จิตใจแจ่มใส ปลอดโรคภัย
ห่างไกลจากโรงพยาบาล...
กัญจน์ ศิริวุฒิ