หน้าแรกแกลเลอรี่

กรมพลศึกษา ครบ 87 ปี มอบรางวัลพระพลบดีเชิดชู 8 คนกีฬา

ไทยรัฐออนไลน์

10 ธ.ค. 2563 16:30 น.

87 ปี กรมพลศึกษา เน้นสร้างสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ พร้อมมอบรางวัลพระพลบดีเชิดชู 8 คนกีฬา

วันที่ 9 ธ.ค. 63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมพลศึกษา 87 ปี พร้อมมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ “พระพลบดี” ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่การพลศึกษาของชาติจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาการพลศึกษาประเทศไทยให้เจริญยิ่งขึ้น โดยมี นายนิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ บุคคลในวงการพลศึกษาและการกีฬา ร่วมงาน ในโอกาสนี้อธิบดีกรมพลศึกษายังได้มอบรางวัลเพชรพลศึกษา ปี พ.ศ. 2563 ให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการพลศึกษา กีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา ณ สนามกีฬาแห่งชติ ปทุมวัน

กิจกรรมงานครบรอบวันสถาปนาครั้งนี้ ประกอบด้วย พิธีสักการะบวงสรวงพระพลบดี บริเวณลานหน้าพระพลบดี พิธีสักการะบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณศาลหลวงศุภชลาศัย ต่อพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ที่อาคารกีฬานิมิบุตร โดยมี เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานสงฆ์ และพิธีแสดงมุทิตาจิตแด่บูรพคณาจารย์ผู้เป็นที่เคารพของบุคลากรทางการพลศึกษา

ส่วนพิธีมอบรางวัลพระพลบดี เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่การพลศึกษาของชาติจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม โดยจัดทำเหรียญพระพลบดีทำจากทองคำแท้ 90 % น้ำหนัก 12 กรัม ฝังเพชรขนาด 2 ตัง เพื่อมอบให้กับบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ด้านการพลศึกษา การกีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมโล่และประกาศเกียรติคุณ ทั้ง 4 สาขา จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย สาขาการบริหารการพลศึกษา พระยาจินดารักษ์ (จำลอง สวัสดิ์-ชูโต) อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา (คนที่ 2), 2. นายปรีดา รอดโพธิ์ทอง อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา (คนที่ 10), 3. พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา 1 ศ.นพ.อวย เกตุสิงห์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย, สาขาการส่งเสริมการพลศึกษาและการกีฬา 1. ผศ.พิพิธพร แก้วมุกดา อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ, 2. ผศ.ดร.ณัฐ อินทรปาน อดีตคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC Member) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สาขาการเรียนการสอนพลศึกษาและการกีฬา 1. นายสืบ จุณฑะเกาศลย์ อดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมพลศึกษา, 2. นายประวิทย์ ไชยสาม อดีตเจ้าหน้าที่พลศึกษา 6 กรมพลศึกษา อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแชมป์ ซีเกมส์ 2 สมัย และชุดแชมป์คิงส์คัพ 3 สมัย

นอกจากนั้น กรมพลศึกษายังได้จัดมอบรางวัล "เพชรพลศึกษา" ให้แก่ องค์กรต่างๆ 9 หน่วยงาน และบุคลากรผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการพลศึกษา กีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา แก่สังคมและประเทศชาติจำนวน 23 ท่าน เพื่อเป็นต้นแบบของทรัพยากรบุคคลและองค์กร ด้านการพลศึกษา กีฬา นันทนาการ และวิทยาศาสตร์การกีฬา อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการพลศึกษา กีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมให้บุคลกรกรมพลศึกษาได้มีส่วนร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วย

สำหรับไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมวันสถาปนาครบรอบ 87 ปีกรมพลศึกษา อยู่ที่การจัดการแข่งขันฟุตบอล “ตำนานฟุตบอลนักเรียนไทย” ภายในสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อให้อดีตทีมฟุตบอลนักเรียนไทยในตำนานที่ผ่านการแข่งขันในฐานะตัวแทนนักเรียนไทยไปชิงแชมป์เอเชีย หรือแข่งขันได้แชมป์นานาชาติทั้งที่ฮ่องกง เกาหลีใต้ อินเดีย ได้กลับมาลงแข่งขันเพื่อย้อนตำนานฟุตบอลนักเรียนไทยอีกครั้ง รวมทั้งยังมุ่งหวังให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้รู้จัก และกีฬาฟุตบอล เกิดแรงบันดาลใจจากทีมนักฟุตบอลรุ่นพี่นักเรียนไทยในตำนานหลายท่าน เช่น ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน (โค้ชหรั่ง), เต๋า สมชาย เข็มกลัด, สุรัก ไชยกิตติ, สุทิน ไชยกิตติ, สะสม พบประเสริฐ, พ.ต.ท.ประสงค์ พันธ์สวัสดิ์, นิพนธ์ มาลานนท์, สันติ ไชยเผือก, ส่งเสริม มาเพิ่ม, โสภิต ภาโนมัย, ดร.องอาจ ก่อสินค้า, ตอฮา นาคนาวา, พิชัย คงศรี, วิรัช ชาญพานิชย์, บรรหาญ สมประสงค์

นายนิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กรมพลศึกษาได้จัดงานนี้ขึ้น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก ที่เราจะได้เห็นคนในวงการพลศึกษาได้มาพบเจอกัน ซึ่งวันนี้เราได้มีพิธีมอบรางวัลพระพลบดี เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้บุคลากรทางการพลศึกษา จำนวน 8 รางวัล ให้กับ โดยบุคคลทั้ง 8 ท่านนี้ เป็นผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ทางด้านการพลศึกษาและเป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาของประเทศไทย ขณะเดียวกัน เราก็ยังมีกิจกรรมย้อนรอยตำนานทีมฟุตบอลนักเรียนไทย เพื่อเป็นการรำลึกความหลังในช่วงที่ได้รับใช้ชาติในฐานะตัวแทนนักเรียนไทยด้วย”

“การก้าวเข้าสู่ปีที่ 87 ของกรมพลศึกษา เรามีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย หันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬา ทำกิจกรรมนันทนาการ โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนาสุขภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งปีนี้ เราจะเน้นไปที่โครงการอาสาสมัครกีฬา และโครงการนำร่องอย่าง 1 ตำบล 1 ชนิดกีฬา เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงกีฬาได้ง่ายที่สุด นอกจากนั้น กรมพลศึกษายังจะพัฒนานักกีฬาร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทุกสมาคม และยังจะมีการร่วมมือทางด้านกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬากับหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาของนักกีฬาในระดับเยาวชน เพื่อป้อนเข้าสู่ทีมชาติไทย ซึ่งนับว่าจะเป็นผลดีกับวงการกีฬาไทยในอนาคตอย่างแน่นอน” อธิบดีนิวัตน์ กล่าวเสริม