หน้าแรกแกลเลอรี่

ลุ้น 2 สนามท้าย ชี้ชะตา "อัลบอน"

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

6 ธ.ค. 2563 05:01 น.

เหลืออีกเพียงแค่ 2 สนามการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2020 ก็จะปิดฉากลงแล้วสถานการณ์ของอเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษของเรดบูล เรซซิ่ง ทีม ก็ยังอึมครึมว่าจะได้ขับในทีม เรดบูล ต่อไปอีกหรือไม่

เนื่องจากทาง เรดบูล เรซซิ่ง ยังไม่ได้ประกาศทีมเมตของ แม็กซ์ เวอร์สแตปเพน ยอดนักขับชาวฮอลแลนด์ที่เป็นมือหนึ่งของทีม “กระทิงดุ” ออกมา

นั่นหมายความว่าอนาคตของอัลบอน ในทีม เรดบูล ยังคงไม่แน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวจะขึ้นโพเดียมได้ 1 ครั้งที่ “ทัสคาน กรังด์ปรีซ์” แต่ก็ไม่ได้ช่วยการันตีตำแหน่งในทีมเอาไว้

ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือหนาหูว่าทาง เรดบูล สนใจที่จะดึงตัวเซร์คิโอ เปเรซ นักขับชาวเม็กซิกันจากทีมเรซซิ่ง พอยต์ และนิโก ฮัลเคนเบิร์กนักขับเอฟวันชาวเยอรมัน เข้ามาแทน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ อัลบอน ดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าตัวคว้าโพเดียมมาครองอีกเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนี้ หลังจากเข้าอันดับ 3 ในศึก “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์”

อัลบอนนั้นเรียกได้ว่าเก่งบวกเฮงถึงก้าวขึ้นโพเดียมในสนามล่าสุด ออกสตาร์ตอันดับที่ 4 ก็ไล่ล่าคู่ต่อสู้ไปตลอดทั้งเกมจนมาถึงรอบที่ 54 ซึ่งเป็นรอบรองสุดท้าย

นักขับวัย 23 ปีกดคันเร่งไล่บี้ เปเรซ ที่รั้งอันดับ 3 จากตามหลัง 5 วินาทีมาเหลือ 3 วินาที จนทำให้นักขับจากเรซซิ่ง พอยต์ ต้องเหยียบคันเร่งหนี จนสุดท้ายเครื่องเกิดไฟไหม้ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน จนทำให้อัลบอน เข้าวินอันดับที่ 3

หลังจบการแข่งขัน อัลบอนได้ออกมายอมรับมีโชคเล็กน้อยที่ขึ้นมายืนโพเดียมในสนามนี้ “สนามนี้มันมีโชคเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซร์คิโอ (เปเรซ) ที่ขับได้อย่างยอดเยี่ยมในวันนี้ แต่ทีมงานของเราทำงานกันหนักมากในการเตรียมรถให้พร้อมสำหรับวันนี้ การคว้าโพเดียมมาครองมันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ผมมีความสุขอย่างมาก ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตนเองขับได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากการแข่ง 2-3 สนามล่าสุด มันเป็นอีกก้าวของทีม”

แม้ว่าจะขึ้นไปยืนโพเดียมเป็นครั้งที่ 2 แต่ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสของเรดบูล ก็ยังไม่การันตีตำแหน่งในทีมอยู่ดี แต่ก็ออกมาชื่นชม “อัลบอน” ว่าทำได้ดี

อัลบอน ในฤดูกาลนี้หากมองจากผลงานการคว้า 2 โพเดียมจากการขับเอฟวัน 2 ปีแรกถือว่ายอดเยี่ยม

แต่ถ้ามองจากผลงานโดยรวมจากมุมมองของเจ้าของทีมและทีมงานก็เรียกว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจซักเท่าไร เพราะหลายฝ่ายมองว่านักขับวัย 23 ปี ยังขาดความสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะการปรับตัวเข้ากับรถ RB16 ที่ อัลบอน ปลุกปล้ำมาตั้งแต่ต้นซีซันก็ยังไม่คุ้นชินซักที แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามที่จะพูดคุยกับทีมช่างเพื่อหาข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองขึ้น

จนเป็นที่ไปที่มาให้อัลบอนก้าวขึ้นโพเดียมได้ในที่สุด

และโพเดียมในสนามล่าสุดจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจและเป็นการเรียกความมั่นใจให้อัลบอน โชว์ฟอร์มได้ดีใน 2 สนามสุดท้าย

อนาคตของอัลบอนนั้นฝากไว้ที่ 2 สนามสุดท้ายที่ “ซาเกียร์ กรังด์ปรีซ์” วันที่ 6 ธ.ค. และ “อาบูดาบี กรังด์ปรีช์” วันที่ 13 ธ.ค.

โดยเฉพาะในศึก “ซาเกียร์ กรังด์ปรีซ์” ค่ำคืนนี้ (6 ธ.ค.) มีโอกาสสูงที่อัลบอนจะก้าวขึ้นโพเดียมอีกครั้ง เนื่องจากลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัย ไม่ได้ลงทำการแข่งขันด้วยเนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่บอกว่ามีลุ้นเพราะปกตินั้น อัลบอนจะเป็นรองเพียงแค่ 2 นักขับจากเมอร์เซเดส อย่างลูอิส แฮมิลตัน และวัลตาห์รี บ็อตตาส ส่วนอีกคนก็เป็น เวอร์สแตปเพน เพื่อนร่วมทีม

ซึ่งถ้าตัดแฮมิลตันออกไป 1 ราย ทำให้ตอนนี้ อัลบอนก็มีลุ้นเหยียบโพเดียมเป็นครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้

ถ้าอัลบอนทำได้ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 3 หรือเซอร์ไพรส์ก้าวกระโดดคว้าแชมป์มาครองได้

ก็คงได้อยู่ในทีม “เรดบูล เรซซิ่ง ทีม” ต่อไปอย่างแน่นอน

แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นโพเดียม

ยังไงก็เชื่อว่า อัลบอนจะได้อยู่ “เรดบูล เรซซิ่ง ทีม” ต่อนั้นค่อนข้างสูง

ไม่ใช่เฉพาะมีเจ้าของทีมร่วมเป็นคนไทย ตามที่หลายๆฝ่ายค่อนขอด

แต่เพราะเป็นฝีมือของเจ้าตัวเองล้วนๆ.

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์