หาช้างเผือก

หลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยคลี่คลายมีแนวโน้มอยู่ในทิศ ทางที่ดี เมื่อกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยและศูนย์ที่เกี่ยวข้องสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ จนทำให้ชื่อของประเทศไทยติดอันดับต้นๆของโลก ที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้

ทำให้หลายสมาคมกีฬาเริ่มทยอยกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง เพื่อหวังให้นักกีฬาของตัวเองมีการเคลื่อนไหว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่เกมใหญ่ระดับนานาชาติอย่างซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่จัดขึ้นในปีหน้า ที่เวียดนาม ต่อไปถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น และตบท้ายที่เอเชียนเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน

นอกจากระดับนานาชาติแล้วก็เริ่มจัดการแข่งขัน ในประเทศมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อเฟ้นหาช้างเผือกที่ตกหล่นจากเวทีใหญ่จากทั่วประเทศเข้ามาเสริมทัพ เพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับทีมชาติไทยในอนาคต

อย่างสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทยของ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร ประมุขใหญ่ ที่เพิ่งจะจัดแมตช์ประลอง ให้กับทีมชาติไทยกับนักชกอาชีพไปเมื่อเดือน ก.ย.เพื่อหวังให้เกิดการเคลื่อนไหวหลังจากหยุดยาวไปหลายเดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ล่าสุด กำลังจะจัดการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศ แห่งประเทศไทย วันที่ 16-22 พ.ย.นี้ ที่ศูนย์ฝึกกีฬามวยแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี จะว่าไปแล้วทัวร์นาเมนต์นี้หากไม่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดก็จะจัดขึ้นไปนานแล้ว แต่พอสถานการณ์ไม่เอื้อ ทำให้ทุกอย่างต้องเลื่อนเช่นกัน

และก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่รายการนี้ยังได้รับความ สนใจจากสโมสรสมาชิกอย่างล้นหลามเช่นเคย อาจเป็นเพราะอัดอั้นมานาน นักชกของแต่ละสโมสรไม่มีการเคลื่อนไหวจึงทำให้ส่งทีมเข้ามาร่วมอย่างคับคั่ง โดยมีทีมที่มาสมัครทั้งสิ้น 21 ทีม โดยแบ่งเป็นทีมจาก 4 เหล่าทัพ ทั้งสโมสรกองทัพบก สโมสร ราชนาวี สโมสรตำรวจ สโมสรทหารอากาศ และเป็นทีมจากประชาชนทั่วไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้นักชกทีมชาติไทยสามารถชกได้ ยกเว้นนักชกที่ได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2021 ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้นักชกดาวรุ่งมีโอกาสลับหมัดกับรุ่นพี่ทีมชาติ

โดยแมตช์นี้แบ่งออกเป็นชาย 6 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 49 กก., รุ่น 52 กก., รุ่น 57 กก., รุ่น 63 กก., รุ่น 69 กก. และรุ่น 75 กก. ขณะที่หญิง 5 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 48 กก., รุ่น 51 กก., รุ่น 57 กก., รุ่น 60 กก. และรุ่น 69 กก.

สำหรับเงินรางวัลชนะเลิศ เหรียญทอง รับ 8,000 บาท เหรียญเงิน 6,000 บาท และเหรียญทองแดง 3,000 บาท ส่วนเงินบำรุงทีม ในนามสโมสรทีมละ 15,000 บาท นักชกที่ส่งในนามอิสระ รับคนละ 2,000 บาท ส่วนนักชกยอดเยี่ยมได้รับ 5,000 บาท

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์โควิดในไทยจะดีขึ้นหรือสามารถควบคุมได้แล้วก็ตาม แต่การจัดการ แข่งขันทุกครั้งทางกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงฝ่ายจัดการแข่งขันกำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของ ศบค.อย่างเคร่งครัด เช่น ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า เข้ามาในบริเวณการแข่งขันและมีเจลล้างมือ ตามจุดต่างๆ รวมถึงมีการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสนามแข่งขัน.

ตองเจ