หน้าแรกแกลเลอรี่

เปิดศึกไทยแลนด์ ไอซ์ฮอกกี้ 2020 ปั้นเยาวชนสู่ทีมชาติ

ไทยรัฐออนไลน์

21 ต.ค. 2563 15:50 น.

ระเบิดศึกไทยแลนด์ไอซ์ฮอกกี้ ทัวร์นาเมนต์ เวทีปั้นเยาวชนหน้าใหม่สู่ทีมชาติ วันที่ 21-25 ต.ค.นี้

วันที่ 21 ต.ค. 63 การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง รายการ ไทยแลนด์ ไอซ์ฮอกกี้ ทัวร์นาเมนต์ 2020 ที่ซับซีโร่ไอซ์สเกต คลับ เมกาบางนา เป็นการแข่งขันวันแรก โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ซึ่งได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวง กฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย, นาย ธีรพงษ์ ชมานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ โบว์ล กรุ้ป จำกัด ณัฐวัฒน์ ดุสิตนิมิต ผู้จัดการการตลาด ฝ่ายกิจกรรมการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา ร่วมด้วย นายพิพัฒน์ เชิดชิด ผู้จัดการทั่วไป ซับซีโร ไอซ์สเก็ต คลับ ร่วมเปิดการแข่งขัน ฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ซับซีโร่ ไอซ์สเก็ต คลับ ร่วมจัดการแข่งขัน เป็นรายการเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาฮอกกี้เยาวชนไทยรวมถึงยังเป็นเวทีให้ระดับทีมชาติของไทยมาร่วมประชันกัน ในระหว่างที่ไม่สามารถเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศได้ ภายใต้ทีมสังกัด โดยทำการแข่งขันภายใต้ระบบนิวนอร์มอล ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยการแข่งขันครั้งนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2563 ที่ ซับซีโร่ไอซ์สเก็ต คลับ เมกาบางนา

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสร้างนักกีฬาฮอกกี้ในระดับเยาวชน และเป็นการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ ปูทางสู่ทีมชาติไทยในอนาคต

การแข่งขันแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 รุ่นการแข่งขัน มีทั้งหมด 23 ทีม แบ่งออกเป็น รุ่นเยาวชนอายุ 8 ปี แบงค็อก วอริเออร์, กริซซี่ แบร์, แบงค็อก ซุส, เยาวชนอายุ 10 ปี แบงค็อก วอริเออร์, ยังดั๊ก, แบงค็อก ซุส, รุ่นเยาวชนอายุ 12 ปี อัลฟ่า, แบงค็อก วอริเออร์ 2008, แบงค็อก วอริเออร์ 2009, แคนสตาร์ แรนเจอร์, กริซซี่ แบร์, รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี ที 22, เอเธน่า เอ, เอเธน่า บี, แพนเทอร์, เชียงใหม่, แบงค็อก วอริเออร์, เอ้าท์ลอวว์, แบงค็อก ซุส, รุ่นโอเพ่น เชียงใหม่, แคนสตาร์ แรนเจอร์, ธันเดอร์, ภูเก็ต ไพรเรท, เซบราทูธ

รายละเอียดของการแข่งขัน การแข่งขันเป็นแบบ 4 ต่อ 4 (ไม่รวมผู้รักษาประตู) ในแต่ละรุ่นอายุจะต้องมีทีมส่งเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยกว่า 3 ทีม, แข่งขันทั้งหมด 3 พีเรียด พีเรียดละ 15 นาที (ไม่หยุดเวลา), พักระหว่างพีเรียด 3 นาที, ทีมสามารถขอเวลานอกได้เกมละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที, กรรมการจะหยุดเวลาช่วง 2 นาทีสุดท้ายของพีเรียดที่ 3 ในกรณีที่ผลต่างประตูไม่เกิน 2 ประตู, ในรอบเก็บคะแนนถ้าเกมจบลงด้วยผลเสมอ จะยิงลูกโทษฝั่งละ 3 คน ถ้าผลเสมออีก จะยิงลูกโทษวัดผลแบบ 1 ต่อ 1, ในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ถ้าเกมจบลงด้วยผลเสมอ จะต่อเวลา 5 นาที เล่นแบบ 3 ต่อ 3 และจะหยุดเวลาช่วง 1 นาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลา (ทีมไหนยิงเข้าช่วงต่อเวลาจะมีผลชนะทันที) ถ้าผลต่อเวลาเสมอ จะยิงลูกโทษฝั่งละ 3 คน ถ้าผลเสมออีก จะยิงลูกโทษวัดผลแบบ 1 ต่อ 1, การจัดอันดับคะแนน ทีมชนะ 3 คะแนน, ทีมแพ้ 0 ติดตามชมการแข่งขันหรือรายละเอียดผ่านทางเฟซบุ๊ก sub zero

สำหรับคู่ที่น่าสนใจอยู่ที่รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี รอบแรก เป็นการพบกันระหว่าง ยังดั๊ก พบกับ แบงคอกซุส โดยในพีเรียดแรกเป็นทาง ยังดั๊ก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นนำก่อน 2-0 แต่ทว่าพีเรียดสองกลับเป็นทางแบงคอกซุสที่เปิดเกมเข้าแลกจนทวงคืนมาได้ 2 ประตูเสมอกัน 2-2 เข้าสู่พีเรียดสุดท้ายในช่วงแรกยังดั๊กพยายามครองเกมบุกจนทำประตูขึ้นนำ 3-2 ซึ่งรูปเกมดูเหมือนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ในช่วง 1 นาทีสุดท้าย แบงคอกซุสดันเกมขึ้นสูงจนสุดท้ายเป็น จิรัฎฐ์ นิ้มสันติเจริญ ยิงประตูตีเสมอเป็น 3-3 และในช่วง 2 วินาทีสุดท้าย จิรัฎฐ์ สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยให้แบงคอกซุสพลิกชนะ 4-3 โดยเกมนี้ จิรัฎฐ์ นิ้มสันติเจริญ ยังยิงคนเดียว 3 ลูกอีกด้วย