บี บางปะกง
ปีพุทธศักราช 2563 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความสูญเสียของวงการกีฬาไทยอย่างแท้จริงครับ!! บุคคลในแวดวงกีฬาและผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ ล้วนแล้วแต่ลาโลกในปีนี้ไปหลายต่อหลายคนอย่างน่าเศร้า
ไม่ว่าจะเป็นอดีตแข้งทีมชาติคนดัง อย่าง “น้าอัษ” รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร, พลตรีปรีชา กิจบุญ, “จอมไซส์โค้ง” สิทธิพร ผ่องศรี
รวมไปถึง ประวิทย์ วสุนทรา และ อภินันท์ แก้วปีลา ที่โชคร้ายเจออุบัติเหตุทางรถยนต์คร่าชีวิตไปก่อนวัยอันควร
เช่นเดียวกับวงการหมัดมวย ที่ต้องเสีย พุฒิ ล้อเหล็ก กับ “พี่เป๋ โปสเตอร์” สุชาติ เกิดเมฆ ไปอย่างไม่มีวันกลับ
แต่ที่ลืมไม่ได้คือ บุรุษผู้บุกเบิกอาณาจักรแกรนด์สปอร์ตอันยิ่งใหญ่ “กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม” ก็มาจากทุกคนไปในขวบปี 63 นี้เช่นกัน
จนมาถึงล่าสุด กับข่าวช็อกความรู้สึกของผู้สื่อข่าวกีฬาบ้านเราที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว
การเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันของ “น้องโอเปิ้ล” ประภาพร เชาวนาศิริ ผู้ประกาศข่าวกีฬาสาวคนเก่งของช่อง PPTV HD 36
ที่มาลาโลกนี้ไปในวัยแค่ 41 ปี ด้วยโรคมะเร็งเฮงซวย
ที่ผมบอกว่ามันกะทันหันเพราะข่าวการเจ็บป่วยของเธอก่อนหน้านี้มันเงียบมากครับ
เชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่า “น้องโอ” ป่วยเป็นอะไร? เพราะเจ้าตัวไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้มาก่อนแม้แต่น้อย
แม้ว่าช่วงหลังๆเธอจะผ่ายผอมลงไป ดูไม่ค่อยสดใสเหมือนเมื่อก่อน และหายจากหน้าจอไปพักนึงแล้ว
มารู้อีกที ก็เมื่อช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่มีคนโพสต์ข่าวร้ายว่า “โอเปิ้ล” ได้จากโลกนี้ไปแล้วด้วยความสงบ
เล่นเอาผมและเพื่อนพ้องพี่น้องสื่อกีฬาทุกคน ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ภาพต่างๆในอดีต ที่เราเคยร่วมสมรภูมิข่าวด้วยกันมาอย่างมากมายทั้งในและนอกประเทศมันผุดขึ้นมาในสมองเต็มไปหมด!!
20 กว่าปีที่ผมรู้จักคุ้นเคยกับน้องสาวคนนี้ เธอคือ “โอเปิ้ลไอทีวี” ที่นิสัยใจคอไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เมื่อก่อนเป็นยังไง วันนี้ก็เป็นอย่างนั้น!!
เป็นแบบฉบับของ “ผู้หญิงเก่ง” ที่เดินบนเส้นทางนักข่าวกีฬา โดยเฉพาะ “ฟุตบอลไทย” อย่างไม่มีขัดเขิน
เป็นสื่อมวลชนร่วมสมัยที่ข้อมูลอินไซด์แน่นปึ้กไม่แพ้ใคร
ที่สำคัญมีอุดมการณ์และความชัดเจนในการทำหน้าที่ของตัวเองสูงส่ง ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก
สมควรอย่างยิ่งที่น้องๆสื่อกีฬารุ่นหลังจะเอาเป็นแบบอย่าง
ผมรู้จักกับ “น้องโอ” ครั้งแรก ก็เมื่อตอนไปทำข่าวทีมฟุตบอลชาติไทย ในเอเชียนเกมส์ 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้
เธอเป็นสาวน้อยหน้าใส ร่างอวบ ที่มีท่าทางทะมัดทะแมง ชะมัด
ทุกครั้งที่เห็น “โอเปิ้ล” อยู่ขอบสนาม เราจะเห็น “อินเนอร์” การเชียร์บอลแบบจัดเต็มชนิดไม่มีกั๊กของสาวห้าวคนนี้เสมอ
เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามผลงานของผมมาตลอด ทั้งงานเขียนและการจัดรายการโทรทัศน์ วิทยุ ทุกช่องทาง
เรียกว่าพอมีประเด็นอะไรหน่อยในวงการ เธอต้องโทร.มาเม้าท์กับผมอยู่เป็นประจำ
3 ปีที่แล้วตอนผมป่วยหนักนอนอยู่ที่โรงพยาบาล จำได้ว่า “น้องโอเปิ้ล” นี่แหละครับไปเยี่ยมให้กำลังใจที่ข้างเตียง
วันนั้นเธอบอกกับผมว่า “พี่บียังตายไม่ได้หรอก เพราะยังติดค้างเรื่องเล่าสนุกๆตอนสมัยทำข่าวกับโออีกหลายเรื่อง”
เอาไว้หายดีแล้วช่วยมาเขียนพ็อกเกตบุ๊กให้อ่านกันหน่อย เธอจะช่วยอุดหนุนเป็นคนแรก
เสียงเจื้อยแจ้วของ “น้องโอ” ยังดังก้องอยู่ในหูตัวเองจนถึงทุกวันนี้
คนที่เคยเฉียดตายอย่างผม ช่วงหลังเริ่มฟื้นกลับมาทบทวนเรื่องราวความหลังจิปาถะ
กะเอามาเขียนลงเฟซบุ๊กให้คนเป็น FC อย่าง น้องโอเปิ้ลได้อ่านเล่นกันสักหน่อย
น่าเสียดายที่เธอชิงโบกมือลาทุกคนไปเสียก่อน แบบไม่ได้เซย์กู๊ดบายกันเลย
ทิ้งไว้เพียงความทรงจำดีๆที่พวกเรามีให้กันเสมอมา
ตลอดกาลและตลอดไป!!!
บี บางปะกง