ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สหพันธ์แบดมินตันโลก ซึ่งมีสมาชิก 194 ประเทศ จัดโปรแกรม การแข่งขันใหม่ในช่วงที่เหลือของ ปี 2020 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตลอด
โดยจะมีเพียงแค่ 6 รายการ หลักเท่านั้น
เริ่มจากแบดมินตันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์ คัพ 2020” วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่เดนมาร์ก และต่อด้วยศึกเวิลด์ทัวร์ ระดับซุปเปอร์ 750 อีก 2 รายการติดต่อกัน ที่เดนมาร์ก เช่นกัน
ส่วนอีก 3 รายการต่อจากนั้น สหพันธ์ฯ จะนำมาจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย
ซึ่ง 2 รายการแรก เป็นระดับซุปเปอร์ 1,000 ก่อนจะปิดท้ายด้วยศึกเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ในสัปดาห์ที่ 46, 47 และ 48 ที่จะจัดแบบต่อเนื่อง 25 วัน ในเดือน พ.ย.
เวลานี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเลือกประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันกันอยู่
ในเรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดี 3 รายการใหญ่ที่จะถูกนำมาจัดในเอเชีย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ โดยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ รองประธานสหพันธ์ฯ คนที่ 1 และนายกสมาคมฯ แสดงความสนใจ ตั้งใจ แต่แรกที่จะดึงมาจัดในไทยให้ได้
เพื่อโชว์ศักยภาพประเทศด้านความปลอดภัย เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองกีฬา
คุณหญิงปัทมากล่าวว่า ปกติแล้วถ้าจะจัดทั้ง 3 รายการใหญ่ดังกล่าว ที่เป็นรายการแกรนด์สแลม ของแบดมินตัน ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นส่วนของเงินรางวัล 100 ล้านบาท
ที่ผ่านมามีแค่ จีน อินโดนีเซีย และยูเออี ที่มีศักยภาพสูงจัดได้
แต่หากรัฐบาลต้องการใช้การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่เหล่านี้ พลิกวิกฤติให้ประเทศ สร้างชื่อเสียง มีนักตบลูกขนไก่ชื่อดังระดับโลก เข้าไทยมาร่วมแข่ง 500-600 คน พร้อมผู้ฝึกสอน และยังมีถ่ายทอดสดไปทั่วโลกตั้งแต่วันแรกไปจนจบ 3 รายการ ผ่านไปยัง 800 ล้านครัวเรือน
ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างรายได้ เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศสู่ทั่วโลก โดยใช้งบประมาณไม่มากเหมือนเก่า เพราะเป็นช่วงที่สหพันธ์ฯ เข้าใจดี
เราแค่เพียงจัดเตรียมโรงแรมและสนามแข่งขันแบบปิดเหมือนที่เอ็นบีเอ สหรัฐฯ ทำอยู่ในเวลานี้ ที่ดิสนีย์ เวิลด์ ออแรนโด รวมไปถึงการ รักษาความปลอดภัยด้านต่างๆ การอำนวยความสะดวก และมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวด
“ไม่ว่าจะเป็นการกักตัว 14 วันก่อน, ตรวจหาเชื้อและหาโรงแรมที่พักแบบปิด ซึ่งจะต้องรองรับ นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้จำนวนมาก จะมีนักแบดมินตันมืออันดับ 1-40 ของโลกจาก 20 กว่าประเทศ เดินทางมา ซึ่งโรงแรมดังกล่าวจะต้องมีสนามซ้อมให้สามารถเดินทางมาสนามแข่งขันได้สะดวก และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิดทุกๆ 3 วัน” คุณหญิงปัทมากล่าว
การจัดแบดมินตัน 3 รายการใหญ่นี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม คุณหญิงปัทมายังคงต้องทำงาน หนักต่อเนื่องหลังจากนี้ ต้องวิ่งสู้ฟัดกับหลายชาติคู่แข่งที่รัฐบาลของแต่ละประเทศก็ต้องการช่วยเหลือสนับสนุนสหพันธ์ฯดึงไปจัดเช่นกันอย่างเต็มกำลัง
แต่ด้วยบารมี ความมีมนุษยสัมพันธ์ เป็นคนเก่ง ขยัน ทำเพื่อชาติ เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ คงไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องผ่านอีกหลายด่านใน ประเทศด้วย
ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช., ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหา
คุณหญิงปัทมาพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะอธิบายถึงประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับ
หวังเพียงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน สมช. จะทราบถึงผลดีรอบด้าน และเปิดไฟเขียวให้หน่วยงานต่างๆให้การสนับสนุน
เพราะหากไม่มีหน่วยงานภาครัฐช่วยผลักดัน อีกทาง ก็คงเป็นเรื่องยากที่การแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในไทย
โอกาสดีแทบจะมาถึงที่ และไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆ เป็นรายการประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ว่าได้
หากไม่หยิบฉวยเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ของแฟนกีฬาชาวไทย...
กัญจน์ ศิริวุฒิ