งวดนี้ 33 มาแน่

เอเนีย บาสเตียนินี, แบรด บินเดอร์ และ แม็กซ์ เวอร์สแตปเปน กลายเป็นเจ้าของรถหมายเลข 33 ที่พากันคว้าแชมป์ของศึกมอเตอร์สปอร์ต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค.

การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตทั้งจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (โมโต จีพี) และ รถยนต์สูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก (เอฟวัน) ฤดูกาล 2020 เพิ่งผ่านพ้นของแต่ละสนามไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา

มีเรื่องที่น่าแปลกใจอยู่ 1 อย่างนั่นคือ ผู้ชนะของทั้ง 3 การแข่งขัน (รวมศึกโมโตทู) ล้วนใช้หมายเลข 33 เป็นเลขประจำตัวเหมือนกันทั้ง 3 คน

เริ่มที่ศึกโมโตทู รายการ "เช็ก กรังด์ปรีซ์" ที่เมืองบรูโน่ ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เป็นทาง เอเนีย บาสเตียนินี นักซิ่งดาวรุ่งวัย 22 ปี ชาวอิตาเลี่ยนสังกัด อิตัลทรานส์ เรซซิง ทีม เข้าเส้นชัยคว้าธงตราหมากรุกเป็นคันแรก ด้วยเวลา 36.034 วินาที ตามมาด้วย ซัม โลเวส จากทีม อีจี 0,0 มาร์ค วีดีเอส เข้าตามหลังเพียง 0.423 วินาที และ โจ โรเบิตส์ ทีมอเมริกัน เรซซิง เวลาตาม 5.948 วินาที

โดยสนามนี้มีหนึ่งนักแข่งไทยเข้าร่วมการแข่งขันเช่นเดิม นั่นคือ "คิงคองก้อง" สมเกียรติ จันทรา สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่สู้อย่างสุดใจก่อนเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 23 เวลาตามหลังแชมป์ 36.034 วินาที ส่งผลให้จบการแข่งขัน บาสเตียนินี หมายเลข 33 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน ต่อจากศึกอันดาลูเซีย กรังด์ปรีซ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พอโมโตทูจบ ก็ต่อด้วย โมโต จีพี โดยครั้งนี้ไม่มี มาร์ค มาเกซ นักบิดชาวสเปน จากสังกัดเรปโซล ฮอนด้า เจ้าของแชมป์โลกโมโตจีพี 6 สมัย ลงดวลความเร็วเหมือนเดิม เนื่อจากเจ้าตัวเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่แขนด้านขวาเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นแผลเดิมที่ได้บาดเจ็บมาจากสนามแรกที่ เฆเรซ ประเทศสเปน จนทำให้พลาดศึกก่อนหน้านี้ด้วย

และผลก็ปรากฏว่า แบรด บินเดอร์ นักบิดชาวแอฟริกาใต้ เบอร์ 33 สังกัด เรดบูลล์ เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิง เอาชนะ ฟรังโก โมบิเดลลี นักแข่งอิตาลี จาก เปโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในรอบที่ 13 ของการแข่งขัน ก่อนทะยานเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ด้วยเวลา 41 นาที 38.764 วินาที กลายเป็นการซิวแชมป์รุ่นใหญ่ครั้งแรกของทัพเคทีเอ็ม นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันโมโตจีพี

ปิดท้ายด้วยพี่ใหญ่ ฟอร์มูล่า วัน ชิงแชมป์โลก หรือ เอฟวัน รายการฉลองครบ 70 ปี กรังด์ปรีซ์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ และแชมป์ก็ตกเป็นของเจ้าของรถหมายเลข 33 อีกแล้ว ภายในวันเดียวกัน นั่นก็คือ แม็กซ์ เวอร์สแตปเปน นักขับจากทีมเรดบูลล์ เรซซิ่ง ที่ทำการหยุดสถิติการชนะติดต่อกันของทีมเมอร์เซเดส เอเอ็มจี ไว้ที่ 3 สนาม

ด้วยการนำทั้ง ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 6 สมัย ขวัญใจเจ้าถิ่น และพาร์ทเนอร์ของลูอิสอย่าง วัลต์เตรี บอตตาส จบโดยการเอาล้อแตะเส้นชัยก่อนใครเพื่อน เวลา 1 ชั่วโมง 19 นาที 41.993 วินาที ทิ้งอันดับ 2 11.326 วินาที และ อันดับ 19.231 วินาที นับเป็นหมาย 33 ของวันที่คว้าแชมป์ในโลกมอเตอร์สปอร์ต ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา