ไทยรัฐออนไลน์
ไทยยืนยัน เดินหน้าเสนอตัวจัดยูธโอลิมปิกเหมือนเดิม แต่ปรับแผนใหม่ไปเสนอตัวในปี 2030 แทน โดยผู้ว่าการ กกท. เตรียมแจ้ง ครม. ขอมติเปลี่ยนปีเสนอตัว พร้อมแจ้งไอโอซีให้ได้ทราบด้วย ส่วนการเสนอตัวจัดเอเชียนยูธเกมส์ ยังคงอยู่ในแผน เพื่อใช้เป็นการปูทางเตรียมพร้อมก่อนจัดเกมใหญ่ แนะสมาคมกีฬาควรเร่ิมเตรียมนักกีฬาอายุน้อยไว้ตั้งแต่ตอนนี้
วันที่ 4 ส.ค.63 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการดำเนินการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 5 พ.ศ.2569 (ค.ศ.2026) ครั้งที่ 3/2563 ที่ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท.
ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ประเทศไทยยืนยันที่จะเดินหน้าเสนอตัวจัดการแข่งขันครั้งนี้ต่อไปเหมือนเดิม หลังแผนเดิม จะเสนอตัวในปี 2026 แต่ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เจ้าภาพปี 2022 มีเหตุจำเป็น ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และด้านการเงิน ต้องขยับไปจัดในปี 2026 โดยไทยต้องปรับแผนใหม่ ไปเสนอตัวในปี 2030 แทน
ในการปรับแผนใหม่ ไปเสนอตัวจัดยูธโอลิมปิก ปี 2030 นั้น ก็จะต้องแจ้งไปยัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอมติ เพื่อเปลี่ยนปีเสนอตัวใหม่ พร้อมกันนี้ ก็จะได้แจ้งให้คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ทราบด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้แจ้งต่อไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เจ้าของเกม ว่าไทยยังคงมุ่งมั่นในการเสนอตัวจัดเช่นเดิม
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า ส่วนการเสนอตัวจัดเอเชียนยูธเกมส์ ในปี 2025 หรือ 2029 ก็ยังคงอยู่ในแผนที่จะดำเนินการ เพื่อที่จะใช้เป็นการปูทางเตรียมพร้อมก่อนจัดเกมใหญ่ต่อไป พร้อมกันนี้ ที่ประชุมต้องการให้แจ้งไปยังสมาคมกีฬาต่างๆ ด้วยว่า ควรที่จะเร่ิมเตรียมนักกีฬาอายุน้อยๆ ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม ทั้งการแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ และยูธโอลิมปิก ที่จะมีขึ้นในอนาคต
“การเสนอตัวอย่างเป็นทางการกับ ไอโอซี คาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณปี 2024 ในช่วงนี้ เราจึงมีเวลาในการเตรียมความพร้อมอีก 4 ปี ส่วนชาติอื่นๆ จะยังคงเสนอตัวจัดกีฬายูธโอลิมปิก ในครั้งเดียวกับเราเหมือนเดิมหรือไม่ ในตอนนี้ยังไม่ทราบความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้มาให้ได้” ดร.ก้องศักด กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ไอโอซี ได้ออกแถลงการณ์ว่า ในส่วนของ 4 ประเทศ คือ โคลอมเบีย, อินเดีย, รัสเซีย และไทย ที่แสดงความสนใจในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน ปี 2026 และในเวลานี้ ได้เข้าสู่ขั้นตอนเจรจากับทางคณะกรรมาธิการไอโอซี ที่ทำหน้าที่ในการคัดเลือกประเทศที่มีความเหมาะสมมากที่สุดก่อนที่จะเสนอให้บอร์ดบริหารไอโอซี พิจารณาเลือกเจ้าภาพการแข่งขันแล้วนั้น ทั้ง 4 ประเทศ จะได้รับสถานะพิเศษในการพิจารณาเจ้าภาพสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน ในปี 2030 ต่อไป