ไทยรัฐออนไลน์
"อัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล" หรือ "เจ้าแม็ก" นักมวยชื่อดังเจ้าของแชมป์ WBC เอเชีย ออกมาเล่าย้อนความวินาทีที่ถูกรวบตัวที่สนามบินและการที่ต้องเข้าเรือนจำวันแรก
วันที่ 4 มิ.ย. 63 สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 3.4 ล้านเม็ด ซึ่งทางผู้ต้องหารายหนึ่งได้ซัดทอด นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ "แม็ก อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม" นักมวยแชมป์ WBC เอเชีย ส่งผลให้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขณะเดินทางไปชกอุ่นเครื่องที่ญี่ปุ่นในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้เพื่อจำหน่าย จำนวนกว่า 3 ล้านเม็ดเลยทีเดียว ภายหลังที่ถูกจับกุม ภรรยาและครอบครัวของเขาได้พยายามหาหลักฐานมาต่อสู้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์จนท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็ได้รับการปล่อย และนั่นทำให้เขาต้องติดคุกฟรีนานถึง 14 เดือน
ล่าสุด นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ "แม็ก อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม" ออกมาเล่าย้อนวินาทีที่ถูกรวบตัวคาสนามบินและวันที่ต้องเข้าเรือนจำวันแรกว่า "ตอนนั้นผมรู้สึกว่า เฮ้ย มันจริงหรือเปล่า มีใครมาล้อเล่นหรือเปล่า แต่มันก็ไม่ใช่ ตอนนั้นผมกำลังจะไปชกมวยที่ประเทศญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ที่สนาบินก็บอกว่าเรามีหมายจับนะ เขาก็พูดกับเราดีๆ เราก็งงและไม่ได้คิดว่าเรื่องมันจะย่ำแย่ถึงขนาดนี้ ตอนที่ผมไปเจอกับคนอื่นๆ ที่ถูกจับเขายังถามผมว่า เฮ้ย..มาทำไม ซึ่งพวกเขาก็งงและไม่เคยเจอผมมาก่อน ผมก็งง ผมก็พยายามอธิบายเจ้าหน้าที่แต่ก็ไม่เป็นผล เรื่องของเรื่องคือผมขายรถต่อให้กับบุคคลหนึ่ง และบุคคลดังกล่าวก็ขายต่อให้กับอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง ผมไม่รอบคอบเองที่เซ็นขายลอยไปแบบนั้น และมันก็เป็นความซวยมากๆ ด้วยที่ต้องมาเจอแบบนี้ มันเกิดจากผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในแก๊งชี้รูปผมทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักหรือเคยเจอกันมาก่อน สาเหตุมันมาจากตรงนี้เลย"
"วินาทีที่ผมเข้าไปในเรือนจำผมจำได้เลยว่า มันคือครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่อยากเจอ ผมยังคิดอยู่เลยว่าตอนนี้ผมควรชกมวยที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นผมเข่าอ่อนไปหมด ภาพห้องที่กว้างและยาวราวๆ 8 เมตร แต่คนอยู่และนอนกันเป็นร้อยๆ คน ผมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกตอนที่ถูกใส่ตรวน ตอนแรกคิดว่าใส่แป๊บเดียวเดี๋ยวเขาก็แกะออกให้แต่เปล่าเลยผมต้องใส่ตลอด มันเปรียบเสมือนอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของร่างกายเราเลย ตอนจะนอนมันลำบากมาก มันอึ้งไปหมด มันหาคำมาพูดไม่ได้เลย มันทำให้ผมน้ำตาไหล แต่ผมก็ต้องอดทนให้ได้ และผมก็ได้มีโอกาสเจอกับคนที่ถูกจับมาด้วยกัน ผมก็ถามเขาบ้างแต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมากเพราะเจ้าหน้าที่คอยกันเราออกจากกัน แต่ก็ได้ใจความว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ชี้รูปผม และแฟนผมก็ได้มีโอกาสเจอคนนั้นเขาก็ตอบว่าไม่ได้ซัดทอดอะไร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้หญิงคนดังกล่าวได้ซัดทอดมา ซึ่งมันไม่ตรงกันเลย"
"ตอนนั้นพอเจ้าหน้าที่จับกุมและอายัดรถไว้เขาก็เจอข้อมูลที่มันเป็นชื่อผม จากนั้นเขาก็เอาข้อมูลไปหาในทะเบียนราษฎร เจ้าหน้าที่บอกว่ารถของผู้หญิงคนนี้เป็นของแฟนเขา นั่นก็คือแม็ก แทนที่เจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานแต่เขาไม่ ครอบครัวผมเหมือนเป็นตำรวจซะเองที่หาหลักฐานมายืนยัน มีสอบเพิ่มเติมในชั้นอัยการ พอตอนจะชี้ครั้งนี้เขาก็ไม่มีใครชี้ แม็ก สักคน แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนั้น"