ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนฯ เอาจริง ขอลุยแก้ปัญหาต่างๆ ของสมาคมให้เรียบร้อยภายใน 6 เดือนนับจากนี้ หลังจากนั้นก็จะมาร่วมมือกันพัฒนา สร้างนักกีฬา ทำให้ยิงปืนกลับมาอยู่ในสมาคมกีฬาที่มีเกรดของการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกครั้ง วางเป้าเก็บโควตาโอลิมปิก โตเกียว ให้ได้อีก 1 คน หลังจากก่อนหน้านี้ได้สิทธิ์เข้าร่วมรอบสุดท้ายแล้ว 3 คน
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับเลือกให้นั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย และได้เลือกคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เรียบร้อยแล้ว โดยผ่านการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะได้เริ่มประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 1 วันที่ 4 มิ.ย.นี้ ที่สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางการทำงานพัฒนากีฬายิงปืน พร้อมกับลดปมขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ได้
นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ปัญหาความขัดแย้งของยิงปืน คาราคาซังมากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์กันระหว่างคนไม่กี่กลุ่ม ตนตัดสินใจสมัครนายกสมาคมฯ เพราะเหมือนงานที่เราทำค้างไว้ตั้งแต่เป็นผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ยังแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ได้ เพราะติดขัดหลายอย่าง พอมาลงสมัครและได้รับเลือกให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ จะทำได้ง่ายขึ้น แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้โดยตรง ตนพูดกับคณะกรรมการบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งมาแล้วว่า ยิงปืนเจอกับปัญหามากว่า 10 ปี แช่แข็งทุกอย่างทั้งการพัฒนาบุคลากรและนักกีฬาที่ไม่สามารถจะไปได้ไกลกว่านี้ ทั้งๆที่เรามีนักกีฬาที่มากด้วยความสามารถ และศักยภาพยอดเยี่ยม
“หากมาทำงานกับผม ต้องหยุดทุกความขัดแย้งและแก้ปัญหาพัฒนาส่งเสริมกีฬาไปด้วยกัน ไม่ใช่เอาแต่จ้องฟ้องร้อง เหมือนที่ผ่านมา กีฬายิงปืน เคยเป็นกีฬาเกรดเอ แต่กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ยิงปืนถูกลดเกรด จนไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มไหนเลย งบประมาณต่างๆก็ไม่ได้รับ ดังนั้น เมื่อมาทำงาน ผมคิดอย่างเดียว คือ เรื่องการพัฒนาบุคลากร และนักกีฬาก้าวสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งการลดปัญหาขัดแย้งไม่ง่าย แต่ผมขอเวลา 6 เดือนเพื่อจะแก้ปมปัญหาทุกอย่าง หลังจากนั้นก็จะมาร่วมมือกันพัฒนา สร้างนักกีฬาทำให้ยิงปืนกลับมาอยู่ในสมาคมกีฬาที่มีเกรดของการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกครั้ง” นายสกลกล่าว
นอกจากนี้ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับนโยบายของตนตอนนี้คือการเตรียมทีมนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมคัดเลือกแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว ซึ่งก่อนหน้า เราได้โควตามาแล้ว 3 คน คือ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ แชมป์เอเชีย 2019 ที่ทำคะแนนในการควอลิฟายโอลิมปิก โตเกียว สูงที่สุด, ธันยาพร พฤกษากร และ อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ และจะส่งควอลิฟายอีก 3 คน ซึ่งน่าจะได้โควตาเพิ่มอีก 1 คน ตอนนี้ในสนามก็เปิดให้นักกีฬาชุดเตรียมโอลิมปิก โตเกียว เข้ามาฝึกซ้อม โดยมี ณภัสวรรณ ที่มาซ้อมอยู่ในตอนนี้แล้ว.