หน้าแรกแกลเลอรี่

"โค้ชตึก" คาดนักว่ายน้ำไทยใช้เวลา 9 เดือน เพื่อฟื้นสถิติเดิม

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

17 พ.ค. 2563 11:20 น.

“โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เผยส่งฉลามหนุ่ม-เงือกสาวลงสระฝึกซ้อมทันที หลังได้ปลดล็อกจาก ศบค. คาดต้องใช้เวลา 9 เดือน หากจะกลับมาว่ายในสถิติเดิมที่ทำไว้ พร้อมใช้มาตรการป้องโควิด-19 ทั้งตรวจวัดไข้ แบ่งซ้อมเป็นรอบๆ รักษาระยะห่าง มอบแนวทางนี้ให้สโมสรสมาชิกไปใช้ให้เหมือนกัน ส่วนคนร่วมวงการที่เดือดร้อน แต่อยู่นอกระบบไม่ได้รับการเยียวยานั้น ก็กำลังหาจำนวนที่แน่ชัด ก่อนเบิกงบสมาคมฯเพื่อช่วยเหลือต่อไป

หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้เดินหน้าปลดล็อกในระยะ 2 ให้กิจกรรมบาง อย่างสามารถกลับมาดำเนินการได้ ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำสาธารณะ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและต้องมีอุปกรณ์ขึงระหว่างลู่

ผู้สื่อข่าวสอบถาม “โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ถึงการดำเนินงานหลังจากนี้ว่า เมื่อได้รับการปลดล็อกจาก ศบค.แล้ว สมาคมจะทำหนังสือถึงการกีฬาแห่ง-ประเทศไทย (กกท.) เพื่อขอเข้าใช้สระว่ายน้ำในการฝึกซ้อม ซึ่งเราได้มีมาตรการรองรับเอาไว้แล้ว ทั้งการตรวจวัดไข้ก่อนเริ่ม การแบ่งซ้อมเป็นรอบๆ การเว้นระยะห่าง ซึ่งแนวทางนี้ก็ได้แจ้งไปยังสโมสรสมาชิกแล้วด้วย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทางเดียวกัน

นายธนาวิชญ์กล่าวต่อว่า สำหรับกีฬาว่ายน้ำเราจะมีการซ้อมตลอดทั้งปี เพราะมีการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขาดซ้อมเป็นช่วงเวลาเกือบ 3 เดือน ทำให้สภาพร่างกายนักกีฬาถดถอยไป จากนี้จะพยายามเรียกความฟิตกลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ ซึ่งจากการพูดคุยฝ่ายเทคนิคประเมินว่าการจะให้นักกีฬากลับมาในสภาพ 80 เปอร์เซ็นต์จะต้องใช้เวลา 4-6 เดือน และถ้าจะว่ายในสถิติเดิมที่เคยทำไว้ ต้องใช้เวลาอีก 3 เดือน รวมเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 9 เดือน

โค้ชตึกกล่าวต่อว่า ส่วนโปโลน้ำ แม้จะยังร่วมทีมกันไม่ได้ แต่นักกีฬายังต้องลงสระฝึกซ้อมว่ายน้ำกันไปก่อน ไว้เมื่อมีการคลายล็อกเพิ่มเติม ค่อยมารวมทีม ซึ่งโอลิมปิกจะเลื่อนไปแข่งขันในปีหน้า ทำให้รอบคัดเลือกต้องขยับออกไปเป็นช่วงต้นปีหน้าเช่นกัน จึงยังถือว่ามีเวลา

เลขาธิการสมาคมกล่าวด้วยว่า ส่วนการช่วยเหลือบุคลากรกีฬาว่ายน้ำ สมาคมได้มีการหารือกันแล้ว เบื้องต้นเราอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ที่ได้รับความ เดือดร้อนและไม่ได้รับการเยียวยาจากที่ไหนเลย เพราะบางคนมีงานประจำ และมารับเป็นครูสอนว่ายน้ำเสริมด้วย แต่บางคนรับงานตรงนี้อย่างเดียว พอปิดสระก็ได้รับผลกระทบ ตรงนี้เราต้องเข้าไปดูแล หากได้จำนวนที่แน่นอนก็จะของบประมาณของสมาคม เพื่อมาช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ส่วนสโมสรสมาชิกประมาณ 290 สโมสร ก็รับเรื่องมาแล้ว ก็จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางช่วยต่อไป.