ไทยรัฐออนไลน์
หลังจากเกิดการระบาดครั้งใหญ่ไปทั่วโลกของโควิด-19 ส่งผลต้องหยุดชะงักไปทั้งระบบ รวมไปถึงวงการกีฬาที่ต้องยุติ และเลื่อนการแข่งขันไปทุกรายการ ซึ่งกีฬาสนุกเกอร์ก็ต้องหยุดการแข่งขันทั้งรายการอาชีพโลก และรายการในประเทศไทย
วันที่ 12 พ.ค.63 “บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เรายังรอการประกาศจากรัฐบาล เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ซึ่งตอนนี้ สมาคมฯ ได้เตรียมแผนงานเอาไว้แล้ว เพื่อที่จะจัดการแข่งขันภายในประเทศให้แล้วเสร็จ โดยจะไม่มีการยกเลิกการแข่งขันแต่อย่างใด
โดยการแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนประเทศไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจาก พี-80, ทรูวิชันส์, การกีฬาแห่งประเทศไทย, แอร์อีมิเนนท์ มีทั้งสิ้น 7 รายการในปีนี้ เราแข่งขันไปแล้ว 2 รายการ คือที่จังหวัดกาญจนบุรี และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามปฏิทินเดิมจะมีอีก 5 รายการ แต่จำเป็นต้องเลื่อนจัด 2 รายการนั่นคือที่ รายการที่ 3 วันที่ 11-16 พฤษภาคม ที่อาคารยิมเนเซี่ยม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬากลาง จ.นครสวรรค์ และรายการที่ 4 วันที่ 1-6 มิถุนายน ที่โรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่จะนำกลับมาแข่งขันแน่นอน”
ส่วนอีกหนึ่งรายการ ตอนนี้รอการตัดสินใจในเรื่องของสนุกเกอร์ 6 แดงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เพื่อวางโปรแกรมให้ดีที่สุด และสอดคล้องกันที่สุดกับอีก 3 รายการ คือ รายการที่ 5 ที่อวานี ขอนแก่น โฮเทล จ.ขอนแก่น, รายการที่ 6 ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ จ.สงขลา และรายการที่ 7 ที่โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ต จ.จันทบุรี โดยเบื้องต้น 2 รายการที่เลื่อนแน่นอนแล้ว อย่าง นครสวรรค์ กับ หัวหิน ก็จะต้องจัดก่อนรายการที่จันทบุรี เนื่องจากรายการนั้นเป็นการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ดังนั้นหากสถานการณ์กลับมาปกติ จะทำให้เดือนกรกฎาคม กับ สิงหาคม จะแข่งเดือนละ 2 รายการเพื่อให้ครบทั้ง 7 รายการ
“ต้องขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน ทั้ง พี.80, ทรูวิชั่น และ แอร์อิมิเน้นท์ ที่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเล็งเห็นถึงความตั้งใจของสมาคมฯ ที่จะจัดแข่งขันให้ทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ก็ยังห่วงทุกคนในวงการ อาทิ นักกีฬา, เจ้าหน้าที่, โต๊ะสนุกเกอร์ และสโมสรต่างๆ ที่จำเป็นต้องปิดกิจการลงชั่วคราวจากไวรัสโควิด – 19 จึงขอฝากกำลังใจให้ทุกคนอดทนพร้อมฝ่าวิกฤติสำคัญระดับชาติครั้งนี้ไปด้วยกัน ผมในฐานะนายกสมาคมฯ ยืนยันว่า จะจัดการแข่งขันทั้งหมดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นไทยแลนด์แรงกิ้ง, 6 แดงประเทศไทย, เยาวชนประเทศไทย เพื่อให้นักกีฬาทุกคนได้มีอาชีพ และมีรายได้ต่อไปเหมือนเดิม”
สำหรับการแข่งขันปีนี้ มีทั้งสิ้น 7 สนามทั่วไทย ชิงเงินรางวัลรวมร่วม 10 ล้านบาท ซึ่งการดวลคิวสนามที่ 1 ไปจนถึงสนามที่ 6 ชิงเงินรางวัลสนามละ 1,134,000 โดยแชมป์แต่ละสนามรับเงินถึง 200,000 บาท ขณะที่การแข่งขันรายการที่ 7 ซึ่งเป็นรายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย จะชิงเงินรางวัลรวม 1,522,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนรางวัลแม็กซิมัมเบรกจาก แอร์อีมิเนนท์ (Eminent Air(Thailand) Similar Co.,Ltd ) เป็นทองคำหนัก 22 บาท มูลค่า 500,000 บาท และ ยังมีเงินอัดฉีดเป็นเงินสดสนามละ 100,000 บาทจากสโมสรไฮคลาส สนุกเกอร์ จังหวัดนครราชสีมา