พอเห็นแสงสว่าง

ความตั้งใจในการไลฟ์สดผ่านรายการ“เมาท์กีฬาประสาบีบางปะกง” ของผม นอกจากเป็นการบำบัดตัวเองจากอาการเจ็บป่วยแล้ว

ผมยังตั้งใจที่จะใช้ช่องทางโซเชียลนี้ ช่วยเป็น“กระบอกเสียง”ให้กับบุคคลในวงการกีฬาที่กำลังเดือดร้อนในการทำมาหากินต่างกรรมต่างวาระกัน

เช่นเดียวกับปัญหาของ อ.สมบัติ ลีกำเนิดไทย และกลุ่มผู้ประกอบการอคาเดมี่สอนฟุตบอลเยาวชนทั่วประเทศ ที่เจอผลกระทบจาก“โควิด-19”เล่นงานจนต้องหยุดกิจการไปแล้วกว่า 2 เดือน

ส่งผลให้รายได้หยุดเป็น “ศูนย์” ไม่มีเม็ดเงินใดๆ มาจุนเจือ และไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่ไหนมาเหลียวแล

เปรียบเสมือนคนที่โดนลอยแพอยู่กลางทะเลอย่างเดียวดาย ปราศจากความช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง

กับสิ่งที่เกิดขึ้น อ.สมบัติ แห่งอินเตอร์ ไทยแลนด์ อะคาเดมี ที่รู้จักคุ้นเคยกับผมมาเนิ่นนานหลายปี ตัดพ้อกับผมมาตลอดด้วยความท้อแท้และสิ้นหวัง

ไอ้ผมเองก็ได้แต่รับฟัง ไม่มีปัญญาอะไรจะไปช่วยพี่เขาได้หรอก เพราะเรามันแค่นักข่าวกระจอกงอกง่อยคนหนึ่ง

กระทั่งวันนึงที่นั่งเขียนงานอยู่ ก็เกิดปิ๊งไปเดีย! ขึ้นมาว่า ลองใช้การไลฟ์สดที่เราทำอยู่ทุกวันนี่แหละวะ..ให้เป็นประโยชน์

เชิญพี่สมบัติโฟนอินมาพูดคุยระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจ พร้อมกับเสนอแนวทางที่คิดไว้ว่าจะมีมาตรการอย่างไร? ให้เด็กๆปลอดภัยมากที่สุดถ้าอคาเดมีกลับมาเปิดได้

ถ้าจำไม่ผิด เราทอล์คกันผ่าน FB ส่วนตัวของผมตั้งนานสองนาน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ซึ่งตอนแรกมีคนสนใจฟังไม่มากเท่าไหร่ เพราะ อ.สมบัติ ไม่ใช่เซเลบ หรือคนดังที่ไหน

แต่เรื่องที่เราคุยกัน..มันคงโดนใจใครหลายคน โดยเฉพาะน้องๆสื่อมวลชนสายบอลที่สนิทกับผม โทรมาขออนุญาติเอาประเด็นนี้ไปขยายต่อเป็นเรื่องเป็นราว

จนในที่สุดก็เป็น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยท่าน “นายกอ๊อด” พล ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ที่ออกมาเด้งรับลูก ด้วยการอาสาขอเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างตัวแทนอคาเดมี กับ หน่วยงานภาครัฐ เพื่อหาแนวทางการคลายล็อคให้กับทุกฝ่าย

ซึ่ง อ.สมบัติ รับหน้าที่เป็นหัวหอกในเรื่องนี้ หอบทั้งเอกสารและคลิปการฝึกฟุตบอลเด็กแบบ Social Distancing ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกคน มาให้ทางสมาคมลูกหนังพิจารณาอย่างละเอียดยิบ

โดยผมเพิ่งได้รับการการันตีจาก นาวาอากาศเอก นายแพทย์ ไพศาล จันทรพิทักษ์ ประธานฝ่ายแพทย์ของสมาคมฯ ที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลเคสนี้

ว่าแนวทางของกลุ่มอคาเดมี่ที่เสนอมาส่วนใหญ่มีความครบถ้วนสมบูรณ์แบบเกือบทุกจุดแล้ว

จะมีที่ต้องไปปรับปรุงให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของทางกรมควบคุมโรคอีกนิดหน่อย ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางสมาคมฯก็จะทำหนังสือเสนอเข้าไปที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อย่างเป็นทางการ

น้ำเสียงของพี่หมอไพศาล ค่อนข้างมั่นใจในสิ่งที่ อ.สมบัติ และตัวแทนอคาเดมี จะนำเสนอต่อภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่มีคณะกรรมการเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั่งเป็นกรรมการอยู่

ที่สำคัญคุณหมอหลายๆท่านก็อยู่ในวงการกีฬาอยู่แล้ว..น่าจะเข้าอกเข้าใจหัวอกคนกีฬาเป็นอย่างดี

ร่วมด้วยช่วยกันครับ..

ดีใจที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นหาทางออกให้กับคนวงการนี้

ในความมืดมิดแห่งวิกฤติ..แสงสว่างที่พอมองเห็น

ย่อมมีคุณค่าเสมอ !!!

บี บางปะกง