ตะลุยฟุตบอลโลก : “รอคอยความหวัง”

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ประชาชนคนไทยเราได้เจอความเดือดร้อนกันทั่วทุกหย่อมหญ้า

จากโควิด-19 ต้องปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดกิจการไป สร้างความเดือดร้อนกันมาก จนหลายคนอดอยากไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีเงินจะใช้

ทางรัฐก็พยายามจะปลอบใจด้วยเงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นว่าอาชีพนี้ได้

อีกอาชีพไม่ได้ ทั้งๆที่เดือดร้อนเหมือนกัน เกิดความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นมาอีก ร้องห่มร้องไห้ออกมาประท้วงกันวุ่นวายไปหมด

บางคนจิตตก หมดความหวัง ยอมฆ่าตัวตาย มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นเลย ถ้าทางภาครัฐ

พยายามคิดหาหนทางให้ประชาชนได้กลับมาประกอบกิจการของตัวเองให้ได้โดยเร็ว

ทุกคนไม่ต้องการแบมือขอเงินกินจากรัฐเลย ถ้ากิจการเขาเปิดได้...

อย่าง อะคาเดมีฟุตบอล ก็เช่นกัน กิจการโดนสั่งปิดสนามมากว่า 2 เดือน รายได้หยุด

เป็น 0 แต่รายจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านมลูก ค่าเทอมลูก ก็กำลังจะมาอีก

บางคนตั้งตารอคอยทุกวัน เช้าลืมตาขึ้นมา ก็รีบมาฟังข่าวว่ากิจการของตัวเองจะเปิดได้ไหม

วันแล้ววันเล่า ก็ยังเงียบ มองไม่เห็นอนาคตเลย บ้างก็ถอดใจเลิกกิจการไป

ภาครัฐรู้สึกอะไรบ้างไหม ทำไมไม่รีบเร่งให้กิจการของทุกๆคนเปิดให้ได้ โดยยอมรับฟังเจ้าของกิจการเหล่านั้น ว่าเขามีมาตรการป้องกันแบบไหนที่ปลอดภัยทั้งสองฝ่าย

แต่ทางภาครัฐไปกำหนดว่ากิจการนี้เปิดได้ก่อน อีกกิจการที่เหลือรอไปก่อน 14 วัน กิจการที่เหลือรอไปก่อน 28 วัน

ถ้าทางรัฐหยุดรับเงินเดือน ตั้งแต่วันประกาศปิดกิจการ แล้วรอไปทีละ 14 วัน รอไป 28 วัน

คุณจะรู้สึกอย่างไร?

รัฐต้องเอา 3 สิ่งนี้มาร่วมกัน คือ เศรษฐกิจไปได้ สังคมเดินไปได้ ภายใต้มาตรการทางด้านสาธารณสุขที่ครบถ้วน

โดยแจ้งให้กิจการนั้นๆ ทำอย่างไรบ้างแล้วส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แล้วก็ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมว่าเขาควรทำอะไรเพิ่ม

หรือบางทีเจ้าของกิจการเองเขาอาจจะมีมาตรการการป้องกันได้ดีกว่าที่ทางภาครัฐกำหนดเสียอีก เพราะเชี่ยวชาญในกิจการของเขา

แบบนี้ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลาย ความเดือดร้อนก็ไม่มี การเรียกร้องเงินเยียวยาก็ไม่มี ทางภาครัฐก็ไม่โดนชาวบ้านเขาด่าทุกวันแบบนี้

เช่น ปลดล็อกสนามออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้เล่นเฉพาะวิ่ง ขี่จักรยาน ตีแบด ตีปิงปอง แต่ห้ามกีฬาเป็นทีม เช่น ฟุตบอล บาส วอลเลย์ ฯลฯ

แล้วอะคาเดมีฟุตบอลท่านเคยรู้จักอาชีพนี้ไหม? ว่าบางสถานที่เขาก็เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง

ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ไม่เท่ากัน เขาไม่จำเป็นต้องซ้อมเป็นทีมก็ได้

ซ้อมเป็นคนๆ ที่มีระยะห่าง (social distancing) และมีที่ล้างมือใกล้ๆ แบบล้างได้สะดวกๆ

ล้างได้บ่อยๆ อีกทั้งเด็กๆมาฝึก ให้ใส่ Face Shield ด้วย เพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

แบบนี้กิจการมันก็ดำเนินไปได้ สังคมเดินต่อไปได้ ภายใต้มาตรการทางด้านสาธารณสุขทุกประการ

อาชีพอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน แล้วทางภาครัฐ ก็เข้าไปตรวจ พร้อมให้คำแนะนำ

ทุกอย่างก็สามารถกลับมาได้โดยเร็ว...นะครับท่าน

สมบัติ ลีกำเนิดไทย

OOOOOOOOOOOOOO

ลองพิจารณารายละเอียดของแต่ละอาชีพให้ดีครับ

ทุกคนรอคอยความหวังจากนโยบายรัฐทั้งนั้น!!!

บี บางปะกง